โทงเทง สุดยอดสมุนไพร แก้ต่อมทอนซิลอักเสบได้อย่างไม่น่าเชื่อ!


26,872 ผู้ชม


โทงเทง สุดยอดสมุนไพร แก้ต่อมทอนซิลอักเสบได้อย่างไม่น่าเชื่อ! 


โทงเทง ชื่ออื่นๆ : โคมจีน เผาะแผะ ทุ้งทิ้ง มะก่องเช้า ตุ้งติ้ง ทุงทิง โคมญี่ปุ่น ฯลฯ จัดเป็นยาเย็น มีรสขม ออกฤทธิ์ต่อปอด ตับ และทางเดินปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเป็นเลือด รักษาอาการดีซ่าน ใช้เป็นยาดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ หวัดแดด ไอร้อนในปอด ไอหืดเรื้อรัง แก้ต่อมน้ำลายอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ คนจีนนิยมปลูกกันตามสวนยาจีนและนิยมใช้กันมาก

วิธีใช้ 

1.ใช้ทั้งต้นตำละลายกับเหล้า เอาสำลีชุบน้ำยาอมไว้ข้างๆ แก้มและค่อยๆ กลืนน้ำยาผ่านลำคอทีละน้อยๆ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ฝีในคอ (แซง้อ) และแก้คออักเสบวิเศษนัก สำหรับท่านที่ไม่ดื่มสุรา จะใช้น้ำส้มสายชูแทนได้เป็นอย่างดี และได้ผลอย่างเดียวกัน

2.ใช้ภายใน แก้ร้อนใน กระหายน้ำวิเศษ

3.ใช้ภายนอก แก้ฟกบวม อักเสบ ทำให้เย็น

4.แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอมีเสมหะ หอบหืด ใช้ทั้งต้นแห้งหนัก 500 กรัม ผสมน้ำเชื่อมให้มีปริมาณ 500 ซี.ซี. รับประทานครั้งละ 50 ซี.ซี. วันละ 5 ครั้งหลังอาหาร 10 วัน เป็น 1 รอบของการรักษา กินติดต่อกัน 3 รอบ แต่ละรอบพัก 3 วัน
6.แก้ดีซ่าน ใช้ทั้งต้น 2 ต้น ต้มน้ำ คั้นเอาน้ำข้นๆ มาผสมน้ำตาลพอสมควร ให้รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง บางคนรับประทาน 10-15 ครั้ง ก็หายตัวเหลือง

7.แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ใช้ต้นนี้สดๆ (หรืออย่างแห้งก็ใช้ได้) 3 หัว แผ่น ฝักชุบน้ำตาล 2 แผ่น ใส่น้ำ 1 ถ้วย ต้มให้เหลือครึ่งถ้วย รับประทานครั้งเดียวหมด เด็กก็รับประทานลดลงตามส่วน จากการรักษาคนไข้ร้อยกว่าราย บางคนรับประทาน 4-10 ครั้งก็หาย บางคนรับประทานติดต่อกันถึง 2 เดือนจึงหาย

8.ฝีอักเสบมีพิษ ใช้สดๆ ตำให้แหลกพอก หรือถ้ามีแผลด้วย ก็เอาต้มน้ำชำระด้วย

9.โรคช่องปากอักเสบ ลิ้นอักเสบ น้ำปัสสาวะเป็นสีเหลือง ใช้โทงเทงและชะเอม อย่างละ 2 สลึง ต้มกินก็หาย

10.ยารักษาโรคหืด ใช้ทั้งต้นแห้ง 1/2 กิโลกรัม ต้มกับน้ำ เติมน้ำตาลกรวดลงไปให้หวาน รับประทานครั้งบะ 1/4 ถ้วยแก้ว วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเป็นเวลา 10 วัน หยุดยา 3 วัน รับประทานต่อไปอีก 10 วัน พักอีก 3 วัน แล้วรับประทานต่อไปอีก 10 วัน หอบหืดจะได้ผลดี

11.ยาขับพยาธิ รักษาโรคเบาหวาน ใช้รากต้มกับน้ำรับประทาน
 

(เครดิตภาพ : manager_co_th, กานดาน้ำมันมะพร้าว, pissa)

** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน ** 


ข้อมูลจาก: มูลนิธิหมอชาวบ้าน

อัพเดทล่าสุด