การลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์


901 ผู้ชม


การลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์

การรักษาโดยใช้ เลเซอร์ (LASER= Light Amplification by the Stimulated Emission of Radiation) เป็นการใช้พลังงาน จากแสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะ ที่สามารถถูกดูดซับโดยเซลล์เป้าหมาย ทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นเฉพาะในเซลล์นั้นๆ โดยมีผลต่อเซลล์ข้างเคียงน้อยมาก 

การลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์

เลเซอร์ ที่นำมาใช้ในการรักษาโรคทางผิวหนัง มีหลายชนิด ที่นำมาใช้ใน การลอกผิวหน้า ได้แก่carbondioxide laser และ erbium YAG laser   เมื่อ แสงเลเซอร์ กระทบเซลล์ผิวหนัง น้ำซึ่งอยู่ภายในเซลล์จะเป็นเป้าหมายที่รับพลังงานแสงไว้ และจะมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่ได้รับเป็นความร้อน พลังงานที่เหมาะสมจะทำให้น้ำในเซลล์ระเหย และมีการหลุดลอกของเซลล์ออกไป โดยไม่มีผลต่อเซลล์ข้างเคียง หรือมีน้อยมาก

การใช้ เลเซอร์ ใน การลอกผิวหน้า มีีข้อดีกว่าการลอกหน้าโดยใช้วิธีอื่น คือ สามารถควบคุมความลึกของ การลอกผิว ได้ดี เนื่องจากมีการพัฒนาเครื่อง เลเซอร์ ให้สามารถปล่อย พลังงานสูงๆ ในระยะเวลาสั้นๆ (Ultrapulse) และยังมีการผลิต CPG (Computerized Pattern Generator) และการใช้ scannerในการควบคุมการปล่อยลำแสง เลเซอร์ ทำให้เซลล์ผิวหนังหลุดลอกเพียงชั้นตื้นๆ   

การใช้ เลเซอร์ ชนิด carbondioxide laser ยังมีข้อดีที่มีเลือดออกน้อย ทำให้แพทย์สามารถเห็นบริเวณที่จะทำการรักษาได้ชัดเจนขึ้น  และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในชั้นหนังแท้ คือเนื้อเยื่อคอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพิ่มปริมาณขึ้น และมีการเรียงตัวที่เป็นระเบียบมากขึ้น แต่ในคนที่สีผิวเข้ม อย่างผิวคนไทย หรือคนเอเชียทั่วไป มักพบปัญหามีสีผิวคล้ำ(postinflammatory hyperpigmentation) หลังการรักษาได้บ่อย   

การใช้ เลเซอร์ ชนิด erbium YAG พบว่าแผลหายเร็วขึ้น และ พบปัญหาสีผิวคล้ำน้อยลง  ระยะหลังได้มีการพยายามทำการรักษาริ้วรอยบนใบหน้าโดยใช้ non-abrative laser resurfacing เพื่อหวังผลกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ โดยไม่ทำให้เกิดแผลในผิวหนังชั้นบน แต่คงต้องติดตามการศึกษาต่อไปว่าจะได้ผลดีหรือไม่

การลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์ ใช้รักษาอะไรได้บ้าง

- รักษา ริ้วรอยย่น บนใบหน้า (wrinkle)

- รักษา แผลเป็น จากสิว (pitted acne scar, depressed acne scar) ทำให้เรียบสม่ำเสมอขึ้น

- แต่ง แผลเป็น จากสาเหตุอื่น เช่น แผลเป็นจากอีสุกอีใส แผลเป็นจากอุบัติเหตุ ช่วยให้เรียบขึ้น

- รักษาผิวหนังย่นบริเวณใต้ตา ช่วยให้กระชับขึ้น 

- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง เนื่องจากหลังการหายของแผล ผิวหนังใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทน จะแน่นกระชับขึ้น มีสีผิวที่สม่ำเสมอกว่าเดิม

ข้อควรคำนึงก่อนรับการรักษาการลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์

แจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า ถ้า

 - เคยมีการติดเชื้อเริมมาก่อน
 - เวลามีแผลแล้วหายช้า หรือหายโดยเป็น แผลเป็น หรือ คีลอยด์
- เคยรับประทานยาในกลุ่มกรดวิตะมินเอ ภายในระยะเวลา ๑ ปี
- เคยรับการผ่าตัดบริเวณใบหน้า เช่น ดึงหน้า ผ่าตัดบริเวณเปลือกตา กรอหน้า (dermabrasion)
- มีประวัติการแพ้ยา โดยเฉพาะยาชา ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด

โดยทั่วไป จะมีแผลอยู่ประมาณ ๑ สัปดาห์ หลังจากนั้นมักสามารถกลับไปทำงาน และใช้ชีวิตตามปกติได้

หลังการรักษา

ต้องสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดได้ และสามารถใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
หลังการรักษามีโอกาสที่จะเกิดสีผิวคล้ำขึ้น ซึ่งพบได้บ่อย และจะค่อยๆจางลงได้ ในเวลาประมาณ ๓-๖ เดือน

ภาวะบางอย่างอาจไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการลอกหน้าเพียงอย่างเดียว เช่น ร่องลึกบนใบหน้าที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ที่แสดงสีหน้า ผิวหน้าที่ย่นมากๆ  แผลเป็นที่ลึกมาก เป็นต้น นอกจากนั้นควรเข้าใจว่าผลการรักษาเพียงช่วยทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้ผลเต็ม ๑๐๐ % และอาจต้องทำการรักษาหลายครั้ง จึงควรปรึกษาแพทย์ให้เข้าใจตรงกันถึงผลการรักษา 

การดูแลแผลหลังการทำการลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์

การลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์ จะทำให้เกิดแผลคล้ายแผลถลอก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ ๔-๑๐ วัน กว่าแผลจะหายดี ระหว่างนั้น อาจมีการบวมของผิวหนัง มีน้ำเหลืองซึมหรือมีสะเก็ดบริเวณที่ทำได้  พยายามดูแลแผล อย่าปล่อยให้แผลแห้ง คอยทายาตามที่แพทย์แนะนำ ให้บริเวณแผลชุ่มชื้นอยู่ตลอดจนกว่าแผลจะมีผิวหนังมาปกคลุมโดยตลอด
อย่าแกะเกา หรือขัดถูผิวหนังบริเวณที่ได้รับการรักษา อาจทำให้แผลหายช้า หรือมีการอักเสบติดเชื้อ แทรกซ้อนได้ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ทำการรักษา จนกว่าแผลจะหายดี แห้งและไม่มีสะเก็ด โดยทั่วไปจะประมาณ ๑ สัปดาห์

เมื่อแผลแห้งดี และไม่มีสะเก็ดแล้ว สามารถแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางได้ แต่ควรระวังว่า ผิวหนังในช่วงนี้ยังไวต่อสิ่งที่มาการลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์สัมผัสมากกว่าภาวะปกติ ควรเลือกใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้(hypo-allergic)

ระหว่างการหายของแผล อาจเกิดการอุดตันของรูขุมขน หรือต่อมเหงื่อได้ง่าย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กับใบหน้า ควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน
หลังทำการลอกผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะในช่วง ๑๐ โมงเช้า ถึง ๓ โมงเย็น  หลังจากแผลหายดีแล้วควรใช้ ครีมกันแดด เป็นประจำ ถ้ามีโอกาสจะต้องสัมผัสกับแสงแดด
 
ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้หลังการลอกผิวหน้าโดยใช้ แสงเลเซอร์
๑. อาการแดง ของผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา (erythema)  พบได้เป็นภาวะปกติหลังทำ มักจะแดงอยู่ประมาณ ๒-๓ เดือน สามารถใช้การแต่งหน้า หรือรองพื้นช่วยได้
๒. สีผิวคล้ำขึ้น (hyperpigmentation) พบได้บ่อยมากในคนที่มีสีผิวคล้ำอยู่แล้ว แต่ในคนที่สีผิวขาวบางรายก็พบว่ามีสีผิวคล้ำได้เช่นกัน โดยทั่วไปสีที่คล้ำขึ้นจะจางลงได้ อาจใช้เวลาหลายเดือน แต่แพทย์สามารถให้ยาทาบางชนิดเพื่อช่วยลดการทำงานของเม็ดสี การเลี่ยงแสงแดด และใช้ ครีมกันแดด ที่มี SPF15 เป็นอย่างน้อยในวันที่ต้องออกไปกลางแดด จะช่วยให้ปัญหาของสีผิวคล้ำลดลง
๓. การกำเริบของเชื้อเริม บริเวณแผล พบได้ในรายที่มีประวัติเคยมีการติดเชื้อเริมมาก่อน ถ้าบริเวณแผลมีอาการแดง หรือเป็นแผลถลอก ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อเริมได้
๔. การอักเสบของแผลจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา ถ้าดูแลแผลถูกต้องจะพบปัญหานี้น้อยมาก แต่ถ้าเกิดขึ้น อาจทำให้มีแผลเป็นตามมาในภายหลัง  ถ้าพบว่าบริเวณแผลมีอาการแดง หรือคันผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์
๕. การเกิด แผลเป็น พบได้น้อยมาก มักพบในรายที่มีการอักเสบติดเชื้อของแผล จากการดูแลแผลไม่ถูกต้อง หรือในรายที่ได้ยารับประทานในกลุ่มกรดวิตามินเอมาก่อน ภายในเวลา ๑ ปีก่อนการรักษา หรือในผู้รับการรักษาบางรายที่เกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์ได้ง่าย
ที่มา   https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1856&pagetype=articles

อัพเดทล่าสุด