แสงแดด กระตุ้นโรคผิวหนังกำเริบ เผยคนผิวขาวมีโอกาสเกิดสูงถึง 1 ใน 3 คน


1,010 ผู้ชม


แสงแดด กระตุ้นโรคผิวหนังกำเริบ

เผยคนผิวขาวมีโอกาสเกิดสูงถึง 1 ใน 3 คน

ภัยร้ายจากแสงแดดนายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า แสงแดดมีผลเสียต่อผิวหนัง โดยผลเสียที่เกิดขึ้นทันทีคือ ทำให้ โรคผิวหนัง มากกว่า 40 ชนิด กำเริบ เช่น ผิวไหม้แดด ผิวคล้ำลง โรคเอสแอลอี (SLE) ที่มีอาการปวดข้อ และ มีผื่นแดงรูปปีกผีเสื้อที่แก้ม สิวบางชนิดกำเริบเมื่อโดนแดด เริม ฝ้า-กระเข้มขึ้น โรคผิวด่างแดด โรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) ที่มีอาการปวดท้อง ผิวไหม้แดดเป็นแผลและตุ่มน้ำ

บางรายมีฟันสีแดง เชื่อว่าแดร็กคิวล่าน่าจะเป็นโรคนี้ เพราะมีอาการกลัวแสงแดดและแพ้กลิ่นกระเทียม เนื่องจากผู้ป่วยโรคพอร์ไฟเรีย มีผิวไหม้แดดอย่างรุนแรง จึงกลัว แสงแดด มากและมักออกมาใช้ชีวิตหลังดวงอาทิตย์ตกแล้ว พบว่ากระเทียมทำให้โรคพอร์ไฟเรียกำเริบ ผู้เป็นโรคนี้จึงกลัวกระเทียม

ส่วนผลเสียของแสงแดดที่สะสมระยะยาว ได้แก่ ผิวเหี่ยวแก่ เนื้องอกขั้นก่อนเป็นมะเร็ง และ มะเร็งผิวหนัง

สมาคมโรคมะเร็งของอเมริการะบุว่า คนอเมริกัน (รวมทุกสีผิว) 1 ใน 5 คนมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ถ้าดูเฉพาะคนผิวขาวโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังสูงถึง 1 ใน 3 คน ส่วนคนไทยก็พบมะเร็งผิวหนังบ่อย เนื่องจากมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น, มีกิจกรรมกลางแดด, มีการตรวจและให้ความสำคัญกับมะเร็งผิวหนังมากขึ้นภัยร้ายจากแสงแดด

นพ.ประวิตร กล่าวว่า บางครั้งนักท่องเที่ยวหรือนักกีฬาไม่ชอบทายากันแดด เพราะทำให้แสบตา และทำให้เล่นกีฬาไม่ดี การทายากันแดดแล้วแสบตามากพบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นกอล์ฟ หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง เช่น เทนนิส ที่ต้องทายากันแดดหนาๆ เมื่อเหงื่อไหลเข้าตาจะแสบตา

การทายากันแดด จึงไม่ควรทาชิดดวงตา ให้เว้นระยะไว้สักครึ่งนิ้ว และ ควรมีผ้าซับใบหน้าเวลาที่เหงื่อออกมากๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบตา อาจทายากันแดดที่หน้าผากบางๆ หรือใช้หมวกป้องกัน แสงแดด ร่วมด้วย หมวกที่ป้องกันแดดได้ผลดี ต้องมีขอบหรือปีกกว้างขนาด 4 นิ้วรอบศีรษะ 

การทายากันแดดอาจทำให้เล่นกีฬาไม่ได้ดีจริง เพราะเนื้อครีมกันแดดทำให้มือลื่น จับอุปกรณ์กีฬาไม่ถนัด เนื้อครีมยังทำให้ร่างกายหลั่งเหงื่อลดลง ระบายความร้อนที่เกิดขณะออกกำลังกายไม่ได้ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สมรรถภาพร่างกายจึงลดลง นักกีฬาจึงต้องเลือกยากันแดดที่มีเนื้อครีมซึมซาบผิวที่ดีซึ่งไม่ขัดขวางการหลั่งเหงื่อ

นพ.ประวิตรแนะนำว่า ถ้ามีกิจกรรมกลางแดด ต้องอยู่นานๆ เกิน 20 นาที ต้อง ทายากันแดด ให้ใช้ยากันแดด ที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป แต่ถ้าต้องออกโดนแดดเป็นเวลานานมาก ต้องใช้ยากันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ทาก่อนโดนแดดนาน 15-30 นาที และทาซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง แต่ถ้าว่ายน้ำหรือเล่นกีฬากลางแจ้งก็ต้องทาบ่อยกว่านี้ ต้องไม่ลืมดูวันหมดอายุก่อนใช้ ยากันแดดมีอายุการใช้งานนาน 3 ปี

แสงแดด มีผลร้ายต่อผิวหนังของเรามากมายขนาดนี้ อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำ และ พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดนะคะ

อัพเดทล่าสุด