เมื่ออายุแม่...ขนานเกณฑ์ (ตั้งครรภ์)


658 ผู้ชม


"เมื่ออายุแม่...ขนานเกณฑ์ (ตั้งครรภ์)"

    ระยะหลังๆ นี้โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ผมพบว่าอายุของคุณแม่ที่มาฝากครรภ์กับผม

หรือฝากครรภ์กับคุณหมอท่านอื่นๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก คือถ้าไม่อายุน้อยไปเลยก็มักจะอายุมากไปเลย อายุที่พอเหมาะควรที่น่าจะตั้งท้องกลับพบว่าไม่ยอมท้องกันสักที 
อายุเท่าไร...น่าตั้งท้อง? 
คงไม่มีใครกำหนดกฎเกณฑ์ได้ชัดเจนหรอกครับว่าตั้งท้องเมื่ออายุเท่าไรถึงจะดี แต่ถ้าลองคิดกันง่ายๆ ไม่ต้องใช้ทฤษฎีอะไรให้ปวดหัว ผมคิดว่าคุณแม่ก็คงจะเห็นด้วยกับผมนะครับว่าผู้หญิงทั้งหลายควรจะตั้งท้องกันขณะอายุประมาณสัก 20-30 ปี เหตุผลก็ง่ายๆ ครับ เพราะว่าอายุขนาดนี้จัดอยุ่ในช่วงชีวิตที่ยังมีความแข็งแรงและสมบูรณ์ของร่างกายอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เวลาตั้งท้องจึงมักมีปัญหาน้อยที่สุดทั้งต่อตัวแม่เองและต่อลูกในท้อง 
อายุแม่เริ่มขนานเกณฑ์ 
ในปัจจุบันคุณแม่ที่อายุน้อยแค่ 14-15 ปีพบมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคุณแม่ที่อายุมากกว่า 35 ปี ก็พบมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทำไมคุณแม่จึงอายุขนานกับเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ผมคิดว่าน่าสนใจ เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เป็นเช่นนั้น 
แม่อายุน้อย 
การตั้งท้องขณะอายุน้อยๆ หรือการตั้งท้องในช่วงวัยรุ่น ในต่างประเทศเรียกการตั้งครรภ์แบบนี้ว่า Teenage Pregnancy ทั้งที่จริงแล้ววัยรุ่นควรเป็นวัยที่ยังศึกษาเล่าเรียน ไม่ใช่วัยที่ควรจะตั้งท้อง เมื่อเกิดท้องขึ้นมาปัญหาจะตามมามากมายหลายประการ เอาแค่ปัญหาทางร่างกายก็จาระไนได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน ตัวแม่ที่เป็นเด็กหรือวัยรุ่นยังมีการเจริญเติบโตอยู่ เมื่อมีท้องก็ต้องแย่งอาหารกับลูก ทำให้ลูกในท้องอาจเจริญเติบโตได้ไม่ดี เชิงกรานของแม่ที่เป็นเด็กมักจะยังเล็กอยู่และขยายขนาดได้ไม่ดีพอ ทำให้เสี่ยงต้องผ่าคลอดสูง 
แต่ปัญหาที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันก็คือ แม่ที่เป็นเด็กจะเลี้ยงลูกกันอย่างไร? ใครที่เคยมีลูกแล้วคงพอจะซาบซึ้งแล้วนะครับว่าการเลี้ยงลูกแต่ละคน กว่าจะโตมันหนักหนาสาหัสแค่ไหน แม่ที่อายุน้อยลำพังแค่ตัวเองก็เอาไม่ค่อยจะรอดอยู่แล้ว ยิ่งมามีลูกจะทำยังไงกันดี ถ้าครอบครัวฐานะดีหน่อยก็พอจะหาคนช่วยได้ไม่ยาก แต่ถ้าฐานะไม่ค่อยดี (ซึ่งมักจะเจอแม่ในกลุ่มนี้เป็นส่วนมากซะด้วย) ปัญหาครอบครัวก็จะตามมา และมากขึ้นจนกลายเป็นปัญหาสังคมได้ 
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมพบว่าแม่ที่ตั้งท้องตั้งแต่อายุยังน้อยมักจะเป็นแม่ที่มีปัญหาในครอบครัวซะเป็นส่วนใหญ่ กล่าวคือได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ไม่ดี หรือถูกทอดทิ้ง เด็กกลุ่มนี้จึงมักจะมีเพื่อนเป็นหลักยึด นอกจากนี้ยังผสมกับสื่อโฆษณาต่างๆ อีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่ทำให้คนเราอยากร่วมเพศกันง่ายขึ้น ลองนึกดูซิครับ จะเห็นได้ว่าสื่อโฆษณาจำนวนไม่น้อยส่อไปในลักษณะที่ทำให้คนอยากจะรู้จักกันง่ายขึ้น สงวนตัวน้อยลง และลงท้ายก็ไม่พ้นการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากโฆษณาแล้วสารพัดภาพยนตร์ทั้งจากในและต่างประเทศก็มีลักษณะของการมีเพศสัมพันธ์ให้เด็กเห็นกันจนถือเป็นเรื่องธรรมดา การมีเพศสัมพันธ์ของคนสมัยก่อนถือเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต ผู้หญิงจะยอมมีเพศสัมพันธ์ก็เฉพาะกับคนรัก คนที่จะแต่งงานด้วย บางคนต่อให้รักอย่างไรถ้ายังไม่แต่งงานก็ยังไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องของ "การเสียตัว" หรือเปลี่ยนชีวิตเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันคนเราคบกันง่าย ไม่ต้องใช้เวลาคบหาดูใจกันนานก็มีเพศสัมพันธ์กับใครก็เหมือนกับการกินข้าวสักมื้อหนึ่งเท่านั้น ไม่เห็นจะต้องจริงจังอะไร ที่สำคัญอีกอย่างก็คือเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น มักจะไม่มีการป้องกันที่ดี เลยทำให้ท้องได้ง่าย 
ผมเชื่อว่าปัญหาเรื่องนี้กำลังรากลึกและจะแก้ยากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสังคมยังไม่ตระหนัก ต่อไปเราคงต้องมีสถานที่ดูแลแม่ท้องที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน และใครจะเป็นผู้ดูแล หมอสูติอย่างพวกผมคงดูแลไม่ไหว และผมยังไม่แน่ใจว่าอาชีพของหมอสูติอาจต้องเปลี่ยนไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะต้องไปเยี่ยมบ้านซึ่งเป็นที่ดูแลคุณแม่เด็กๆ มากขึ้น หรือต้องไปศึกษาเกี่ยวกับชีวิตและวิธีคิดของวัยรุ่นสมัยนี้มากขึ้นก็ได้นะครับ



แม่อายุมาก


แม่ที่อายุมากโดยเฉพาะถ้าอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป มักจะเสี่ยงต่อปัญหาแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ให้หมอได้ปวดหัวได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์หรือเวลาคลอดก็อาจตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี สำหรับตัวลูกก็อาจเสี่ยงที่จะเป็นเด็กปัญญาอ่อนได้มากกว่าลูกของแม่ที่อายุน้อยกว่า เปรียบไปแล้วคุณแม่ที่อายุมากก็เหมือนกับรถยนต์ที่เครื่องยนต์เก่าแล้ว ทำให้เครื่องยนต์หรือส่วนประกอบต่างๆ เสียได้ง่ายหรือทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 
แม่ท้องเมื่ออายุมาก ส่วนมากก็เพราะแต่งงานช้านั่นแหละ ที่แต่งงานเร็วแล้วมามีลูกตอนแก่มีไม่มากหรอกครับ คำถามก็คือแล้วทำไมแต่งงานช้าเล่า คำตอบมีไม่กี่ประเด็นหรอกครับ ...การศึกษาที่สูงขึ้น หน้าที่การงานที่วุ่นวาย ไม่มีเวลาว่าง รับผิดชอบสูง แค่ทำงานก็เหนื่อยจะขาดใจ แถมเวลาก็ไม่ค่อยมีแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปพบปะผู้คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต บางคนก็บอกผมว่าที่พูดมาทั้งหมดไม่จริงหรอก แต่ที่ไม่แต่งงานเพราะหาผู้ขายมาขอยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าผู้ชายหายไปไหนหมด และที่น่าเจ็บใจก็คือผู้ชายที่พอจะมีก็ดันไปชอบผู้ชายด้วยกันเองมากกว่าที่จะชอบเรา เฮ้อ...แค่ฟังก็เหนื่อยแทน ผมอิจฉาผู้ชายสมัยนี้จังเลยครับ 
กลับมาพูดเรื่องตั้งท้องตอนแก่ดีกว่าว่าถ้าท้องตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง คำตอบก็คือปัญหาจากการตั้งท้องเองก็ไม่หนักหนาอะไรเกินกว่าที่หมอจะดูแลได้ แต่ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องของอาชีพการงานที่คุณแม่ต้องทำมากกว่า คุณแม่พวกนี้มักจะหาเวลาว่างยาก การดูแลคุณแม่พวกนี้จึงน่าจะมากกว่าแค่ตรวจท้องหรือให้ยาบำรุงไปรับประทานเท่านั้น แต่น่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ ขณะตั้งครรภ์เพื่อคลายเครียด หรือได้รับความรู้เพื่อให้การตั้งครรภ์และการคลอดดำเนินไปอย่างราบรื่น ผมอยากรณรงค์ให้หน่วยงานของทั้งภาครัฐและเอกชนของบ้านเราให้ความสนใจดูแลคุณแม่ท้องในที่ทำงานให้มากขึ้น เปิดโอกาสให้คุณแม่มีช่วงพักผ่อนขณะทำงานมากขึ้น มีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลังคลอดมากขึ้นเหมือนกับในประเทศทางตะวันตก 
ผมคิดว่าคนเราควรจะทำกิจกรรมแต่ละอย่างในแต่ละวัยให้เหมาะสมกับกิจกรรมนั้นๆ เช่น เรียนหนังสือเมื่อเป็นวัยรุ่น ทำงานเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ตั้งครรภ์เมื่ออยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ การทำอะไรที่ผิดช่วงเวลาที่เหมาะสมมักก่อปัญหา อาจจะเป็นปัญหาของตัวเองเท่านั้น หรือปัญหาที่กระทบต่อคนอื่น หรือลุกลามจนถึงระดับสังคม 
ถึงเวลาหรือยังที่สังคมไทยต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นกันอย่างจริงจัง ก่อนที่ปัญหาต่างๆ จากการตั้งครรภ์ในวัยนี้จะลุกลามจนแก้ไม่ได้เหมือนหลายๆ ปัญหาที่เรื้อรังในบ้านเรา     

 

มีใครบ้างหรือยังที่คิดจะให้การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุมากหรือคุณแม่ที่ทำงานอย่างจริงจังเสียที 
ผมว่าคงได้เวลาแล้วที่จะต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับการดูแลและคุ้มครองแม่ตั้งครรภ์ทั้งที่เป็นวัยรุ่นและแม่ที่อายุมากอย่างเหมาะสมและจริงจังกันเสียที!
ที่มา    https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=68

อัพเดทล่าสุด