อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร มีเคล็ดลับมาบอก!!!


948 ผู้ชม


"อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร มีเคล็ดลับมาบอก!!!"

    มีคำถามจากกลุ่มผู้หญิงทั้งหลายว่าอยากหุ่นดีต้องทําอย่างไรวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณขจัดคำถามที่ว่า อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร ออกไปจากใจคุณได้ค่ะ

เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนนั้นอยากจะมีหุ่นดีน้ำหนักน้อยด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราจะมีวิธีจัดการกับปัญหาที่ว่า อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร นั้นเรามาดูเคล็ดลับกันเลยดีกว่าค่ะ 


อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร?

น้ำหนักส่วนเกินลดยังไงก็ไม่ลง นอกจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วยังมีวิธีที่สามที่ช่วยต่อกรกับไขมันนั่นก็คือ "สู้ด้วยจิตใจ" กลอเรีย โทมัส ที่ปรึกษาด้านฟิตเนสบอก
ในทางทฤษฏีการลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก การกินอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนแต่พอประมาณออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ แต่ดูเหมือนความเบื่อหน่าย ความเครียด และอารมณ์ที่สับสนทำให้คุณอดใจไม่ไหวหยิบไอศกรีมดับเบิ้ลช็อกชิปใส่ปาก อันเดียวไม่พอเผลอ ๆ ถึงสอง อาหารกับความรู้สึกเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นตามหลักเหตุผลแล้ว หากคุณต้องการกำจัดน้ำหนักส่วนเกินแล้วคุณต้องเอาชนะความอยากกินให้ได้

1.รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง

การทำความรู้จักพฤติกรรมการลดน้ำหนักของตัวเองถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีจงทำเครื่องหมายหน้าข้อความต่อไปนี้ที่ตรงกับคุณ

- ฉันลงมือควบคุมอาหารวันจันทร์พอวันพุธทุกอย่างก็กลับสู่อีหรอบเดิม
- กินช็อกโกแลตทั้งทีอันเดียวไม่พอหรอกอย่างฉันต้องครึ่งกล่อง
- ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที
- เครื่องชั่งน้ำหนักที่อยู่ในห้องน้ำเป็นสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้
- อาหารเป็นชีวิตจิตใจของฉัน
- ฉันต้องคอยควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่เป็นประจำ
- ฉันกินจุมาก
- ฉันติดอาหารบางอย่างงอมแงม ต้องกิน ขาดไม่ได้
- ฉันชอบกินตามใจปากตัวเอง
- ฉันกินได้เรื่อย ๆ ทั้งวัน
- ฉันไม่มีเวลาออกกำลังกาย
- ฉันไม่สนว่าอาหารชนิดไหนที่ควรระมัดระวัง
- ฉันลดน้ำหนักมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนน้ำหนักยิ่งเพิ่ม
- เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ฉันกินน้อย แต่พอกลับบ้าน กินไม่ยั้ง
- ฉันมักกินอาหารที่ลูกๆ กินเหลือทิ้งไว้
- กินให้อิ่ม อย่าให้เหลือ นี่คือสิ่งที่ฉันยึดถือ
- ฉันหลอกตัวเองเป็นประจำว่าอาหารที่กินไม่ทำให้อ้วน
- ฉันจะกิน ๆ เวลารู้สึกหดหู่หรือเครียด
สิ่งที่ควรทำ
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้แผนควบคุมน้ำหนักของคุณล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเบื่องานที่ทำหรือกินเพราะต้องการดับความเครียด ซึ่งวิธีต่อไปนี้จะช่วยหยุดความล้มเหลวดังกล่าวได้ เริ่มจากประเมินสิ่งที่คุณทำมาก่อนหน้านี้โดยการทำเครื่องหมายหน้าแบบสอบถามที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อหาสาเหตุของความล้มเหลว เขียนสิ่งที่คุณพยายามทำก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมน้ำหนักโดยแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ หัวข้อแรกคือ "สิ่งที่ทำสำเร็จ" และ "สิ่งที่ทำไม่สำเร็จ" นึกถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการลดน้ำหนักล้มเหลว โดยคิดถึงผลในระยะสั้นและผลในระยะยาว จากนั้นไปที่ขั้นตอนที่ 2

2.ความมุ่งมั่นตั้งใจ? ลืมมันไปซะ!

การบอกกับตัวเองว่าอย่ากินนั่นกินนี่วิธีนี้ไมได้ผล เพื่อหยุดตามใจปากคุณต้องสร้างความสำนึกให้เกิดกับจิตส่วนลึกของคุณก่อน 
- หยุดตำหนิตัวเองที่เผลอไปกินเอแคลช็อกโกแลตเข้าความมุ่งมั่นตั้งใจหามีประโยชน์ไม่ในเวลาที่คุณกำลังลดน้ำหนัก นั่นเพราะไม่ว่าคุณจะบอกกับจิตสำนึกของคุณมากแค่ไหนคุณต้องทำให้จิตใต้สำนึกเกิดความมุ่งมั่นเสียก่อน สมองของคุณตอบสนองต่อคำแนะนำที่คุณบอกแต่จะลบคำปฏิเสธทิ้ง ดังนั้นถึงคุณจะบอกกับตัวเองว่า "ฉันต้องไม่กินขนมพุดดิ้งชิ้นนั้นเพิ่มอีก ฉันต้องไม่กินอีกเป็นอันขาด" คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ลบคำว่า "ไม่" ออกแล้วคุณจะได้คำตอบ จะเห็นว่าความมุ่งมั่นตั้งใจไม่สามารถครอบงำจิตใต้สำนึก
สิ่งที่ควรทำ
พิจารณาชีวิตแต่ละด้านของคุณมีด้านใดบ้างที่ความมุ่งมั่นตั้งใจให้ผลกับคุณ เกิดอะไรขึ้นเวลาที่คุณต้องการจำกัดอาหารบางอย่าง คุณสามารถปฏิเสธขนมขบเคี้ยวในงานปาร์ตี้หรือยอมทิ้งอาหารในจานเพราะอิ่มแปล้ได้หรือไม่ จงซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยการเขียนคำตอบที่แท้จริงลงไป คุณอาจพบว่าความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เวลาคุณอยากกินอาหารมาก ๆ ถึงเวลาที่คุณน่าจะมองหาวิธีอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า


3.สังเกตนิสัยที่ไม่ดี

ประสบการณ์การกินในวัยเด็กมีอิทธิพลต่อการเลือกกินในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นจงระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของคุณให้ดี
- รูปแบบการกินอาหารของเรามักได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดกรอบย่อมอาจทำให้คุณชอบกินอาหารประเภทนี้เมื่อโตขึ้น ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินผักที่ปลูกเองในบ้านก็ย่อมทำให้คุณมีแนวโน้มกินผักไปตลอดชีวิต การกินอาหารพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวอาจเป็นช่วงเวลาสบาย ๆ ผ่อนคลายหรืออาจเป็นเวลาของการมีปากเสียงซึ่งพบได้บ่อยตอนคุณเป็นเด็ก เวลากินข้าวหมดจานคุณจะได้ขนมเป็นรางวัลหรือถูกไล่ให้ไปนอนโดยไม่มีข้าวตกถึงท้องเวลาดื้อ เมื่อเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงเพราะคุณโตเป็นผู้ใหญ่คุณก็มักพยายามทำอะไรที่ตรงข้ามกับประสบการณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ
สิ่งที่ควรทำ
ตรวจสอบนิสัยการกินภายในจิตใต้สำนึกของคุณคุณเป็นคนประเภทไหน กินอะไรไม่ระวัง หรือกินจนเกลี้ยงจานไม่เหลือซักเม็ด ถึงแม้จะกินอิ่มแล้วก็ตาม คุณอาจขอให้แฟนญาติพี่น้องหรือเพื่อนคอยเตือนสติคุณ เวลาคุณใช้จิตใต้สำนึกเป็นตัวตัดสินใจเรื่องการกิน เช่น การหยิบคุกกี้ในกระป๋องมากกินโดยไม่คิด

4.ใช้จินตนาการ

ใช้ประโยชน์จากจิตใต้สำนึกของคุณและค่อย ๆ นำการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ชีวิตประจำวัน
- เวลาที่คุณรู้สึกสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่จิตใต้สำนึกมีความสำคัญ ดังนั้นจงเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและคุณสามารถบงการจิตใต้สำนึกให้ทำตามฝันและแรงบันดาลใจของคุณได้ การฝึกทำสมาธิเป็นประจำจะช่วยให้คุณทำจิตใจให้สงบเยือกเย็นได้ไม่ยาก ในข้อเท็จจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติอย่างการฝันกลางวันหรือช่วงเวลาก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนถือเป็นช่วงที่จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย
สิ่งที่ควรทำ
นั่งในท่าสบาย ๆ บอกกล้ามเนื้อแต่ละส่วนให้ผ่อนคลายกระทั่งกล้ามเนื้อแต่ละส่วนรู้สึกหนัก จินตนาการว่าตัวคุณนั่งอยู่ชั้นบนสุดของบันไดนับถอยหลังจาก 20 ลงไป หายใจเข้าลึก ๆ ระหว่างถัดบันได้ลงมาแต่ละขั้นจนถึงขั้นสุดท้าย กำหนดสมาธิไปที่ลมหายใจเข้าออกกระทั่งจิตใจสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่ คราวนี้ให้เลือกข้อความจากแบบสอบถามที่คุณทำเครื่องหมายไว้ขึ้นมา 1 หัวข้อ คุณอยากจินตนาการอย่างไร ตัวอย่างเช่น "ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที" ให้บอกกับตัวเองแทนว่า "ฉันลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ" หลับตาลงพร้อมนำข้อความนี้มาจินตนาการเป็นภาพนึกภาพตัวคุณเองในแบบที่คุณอยากเป็น คุณเห็นตัวเองลดน้ำหนักได้สำเร็จเติมรายละเอียดต่าง ๆ สีสันเสียง และความรู้สึกให้กับภาพในจินตนาการของคุณดื่มด่ำความสุขกับภาพบวกนี้ตราบเท่าที่คุณต้องการจากนั้นลืมตาขึ้น

5.เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง

มอบความรักให้ร่างกายของคุณพุ่งเป้าที่จะทำให้หุ่นดีและร่างกายแข็งแรงโดยการตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง

- คนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไม่ได้ผลเพราะอยากมีหุ่นดีในแบบที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณมีหุ่นตัน ลำตัวหนา การควบคุมอาหาร วิ่ง ว่ายน้ำ หรือไม่ว่าจะวิธีใดในโลกนี้ก็ไม่อาจทำให้รูปร่างของคุณเหมือนนางแบบ แอล แมคเฟอร์สัน ไปได้ ยิ่งคุณพยายามจะเป็นมากเท่าไรโอกาสที่จะลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมายก็มีน้อยเท่านั้น น้ำหนักมีความสัมพันธ์กับภาพลักษณ์และเมื่อคุณยอมรับรูปร่างตามธรรมชาติของคุณคุณก็สามารถทำให้ตัวเองดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


สิ่งที่ควรทำ
ใช้เวลา 5 นาทีในตอนเช้ากล่าวย้ำข้อความที่เป็นบวกกับตัวเอง เช่น "ฉันชอบหุ่นตัวเอง" หรือ "ฉันดีใจที่น้ำหนักลดลงใกล้เคียงกับที่ฉันตั้งใจไว้" การทำเช่นนี้อาจทำให้คุณรู้สึกแปลก ๆ ในตอนต้น แต่หลังจากนั้นสักพักคุณจะเชื่อในสิ่งที่คุณบอกกับตัวเอง

6.ทำวันนี้ให้ดี

เพื่อให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จคุณต้องจัดการกับนิสัยที่ไม่ดีของคุณและรูปแบบการกินที่ไม่ดีในแต่ละวัน
- คุณกินของว่างจำพวกมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลตมาเกือบตลอดทั้งชีวิต การบอกตัวเองว่าจะไม่แตะต้องของว่างไขมันสูงพวกนี้อีกจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่าบอกตัวเองว่าวันนี้คุณจะไม่กินมันฝรั่งทอดกรอบหรือช็อกโกแลตเพราะจิตใต้สำนึกของคุณตอบสนองต่อเวลาในปัจจุบันได้ดีที่สุด แต่จงกล่าวข้อความเหล่านี้แทน เช่น "ทุกวันนี้ฉันกำลังเดินหน้าลดน้ำหนักเพื่อให้ใส่ยีนส์ตัวใหม่ได้ ทุกวันนี้ฉันระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอย่างมากและฉันรู้ว่าฉันควรหยุดกินทันทีที่รู้สึกอิ่มและหายหิว"
สิ่งที่ควรทำ
จดจำเป้าหมายให้ขึ้นใจลองหาคำตอบดูว่า การไปให้ถึงน้ำหนักที่ตั้งเป้าไว้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน จำไว้ว่าองค์การอนามัยโลก (The World Health Organization) แนะให้ลดน้ำหนักได้ไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ จากนั้นกำหนดเป้าหมายขั้นต่อไปที่เล็กลงอันจะนำไปสู่จุดหมายได้สำเร็จง่ายขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณเดินไปตามเป้าที่กำหนดไว้โดยไม่สะเปะสะปะและทุกครั้งที่คุณเดินไปถึงเป้าหมายนั้นให้คุณกล่าวชมเชยตัวเองจากนั้นเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=53

อัพเดทล่าสุด