The Power of Colour


"The Power of Colour"

    คุณคงไม่ปฏิเสธใช่มั้ยคะว่าอาหารที่มีสีสัน มีการจัดตกแต่งหน้าตาให้สดและสวยนั้น มีพลังเย้ายวนชวนน้ำลายสอไม่ใช่เล่น และที่มากกว่าความสดสวยชวนกินก็คือ

สารต้านโรคที่อัดแน่นในบรรดาผักผลไม้หลากสี ซึ่งถือเป็นของแถมตบท้ายความอร่อยที่คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ

 

อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าประโยชน์ของผักผลไม้นั้นมีมากมายมหาศาล ทั้งวิตามินแร่ธาตุหลากชนิดที่เป็นประโยชน์กับกลไกต่างๆ ในร่างกาย และคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหารเป็นสารอาหารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรรอลและไขมัน (ศัตรูตัวฉกาจของหุ่นเพรียวสวยและสุขภาพของคุณๆ) ช่วยให้ระบบย่อย ระบบการขับถ่ายทำงานปกติ

 

นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้วในผักผลไม้ยังมีสารพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายยา ช่วยป้องกันโรคบางชนิด เช่น มะเร็ง โรคหัวใจหลอดเลือด เป็นต้น แต่จะกินอย่างไรเพื่อให้ร่างกายได้รับการปกป้องจากโรคภัยได้นั้น เขาแนะนำให้กินหลากหลายค่ะ ถ้าให้ชัดขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ กินให้ครบ 5 สีค่ะ ใน 5 สีสันนั้นมีอะไรบ้าง อยากรู้ไปชมไปชิมด้วยกันค่ะ

 

พลังของ 5 สีสัน

 

สีเขียว เป็นสีแรกที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงผัก สารที่ให้สีเขียวในผักก็คือคลอโรฟีลล์ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ เช่น ลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา เป็นต้น

ผัก ผลไม้สีเขียว : ผักใบเขียวทุกชนิด เช่น บล็อกโคลี คะน้า ผักโขม กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ชะอม

 

 

 

 

 

 

 

สีเหลือง สีส้ม ในกลุ่มสีนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัวด้วยกัน ตัวสำคัญๆ ก็ เช่น เบต้า-แคโรทีน ฟลาโวนอย วิตามินซี ซึ่งช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเรา และลดโอกาสการเกิดมะเร็ง กระตุ้นการกำจัดเซลล์มะเร็งของร่างกายด้วยค่ะ

ผัก ผลไม้สีเหลือง ส้ม : ฟักทอง ขนุนข้าวโพด แครอต แคนตาลูป มะม่วง มะละกอสุก สับปะรด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สีแดง สารตัวเลื่องชื่อในกลุ่มนี้ก็คือไลโคปีน เพราะมีการค้นพบว่าช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากของคุณผู้ชายได้ และลดปริมาณไขมันแอลดีแอลในเลือด นอกจากนี้อาหารสีแดงยังช่วยดูแลสุขภาพหัวใจ หลอดเลือดและระบบทางเดินปัสสาวะ ลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง

ผัก ผลไม้สีแดง : แตงโม มะเขือเทศ สตรอว์เบอรี่ เชอร์รี่ ชมพู่แดง ดอกกระเจี๊ยบ บีทรูท

 

สีม่วงแดง ในผักผลไม้กลุ่มสีนี้มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยปกป้องผักผลไม้จากการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต เลยทำให้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด ช่วยชะลอการเกิดการอุดตันในเส้นเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว

ผัก ผลไม้สีม่วงแดง : กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง หอมแดง ถั่วดำ/แดง ข้าวเหนียวดำ ข้าวแดง มันสีม่วง เผือก ดอกอัญชัน ลูกพรุน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น องุ่นแดง บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สีขาว สารประกอบในผักผลไม้กลุ่มนี้มีหลายชนิดและเป็นที่สนใจของนักวิจัย เพราะมีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสียหายของเซลล์และอวัยวะในร่างกาย ขิงและข่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยดูแลความดันเลือด และป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น

ผัก ผลไม้สีขาว : แอปเปิ้ล ฝรั่ง เงาะ ลิ้นจี่ แห้ว งา ลูกเดือย ข่า ขิง กระเทียม หอมหัวใหญ่

 

ดูๆ แล้วคุณประโยชน์ของอาหารแต่ละกลุ่มสีก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันเท่าไหร่เลย แต่การแบ่งกลุ่มสีก็เพื่อให้ง่ายและสนุกกับการเลือกกินมากยิ่งขึ้น ยังไงลองดูนะคะ 1 วันกินให้ได้ 5 สี สลับหมุนเวียนชนิดในแต่ละสีไป นอกจากได้สารอาหารหลากหลายที่ดีกับสุขภาพเราแล้ว เราเองก็ไม่รู้สึกเบื่อด้วย

 

ครั้งมีสูตรน้ำสลัดญี่ปุ่นมาฝาก เอาไว้กินกับผักสลัด ทำติดตู้เย็นไว้หรือจะซื้อแบบสำเร็จรูปมาไว้ประจำบ้านก็ได้ มีน้ำสลัดติดบ้านไว้จะได้มีมื้อสลัดผัก/ผลไม้รวมที่อุดมสีสันไว้ดูแลสุขภาพทุกเมื่อที่ต้องการ แถมสูตรนี้ยัง Low Fat ด้วยนะคะ

 

น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น

ส่วนผสม : น้ำมันมะกอก 1/2 ถ้วย, น้ำมันมะกอก 1/2 ถ้วย, ซีอิ้วญี่ปุ่น 1/4 ถ้วย, น้ำส้มหมักไวน์แดง 1/2 ถ้วย, น้ำมะนาว 1 ช้อนชา, ขิงสับ 1-1 1/2 ช้อนชา, หัวไชเท้าขูดฝอย 1/2 ช้อนโต๊ะ, มิริน 1 ช้อนโต๊ะ, งาดำและงาขาวอย่างละ 1 ช้อนชา

วิธีปรุงน้ำสลัด : ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน กินคู่กับผักสลัดรวม เสริมด้วยเต้าหู้อ่อนและเห็ดเข็มทองลวกสุก

 

Tips for Healthy Meal

ถึงจะรู้กันอยู่เต็มอกว่าผักผลไม้ดีกับสุขภาพเหลือหลาย แต่หลายคนก็ไม่ค่อยกินผักผลไม้กันเท่าไหร่ ดิฉันจึงเตรียมเทคนิคช่วยให้คุณเพิ่มปริมาณการกินผักผลไม้ในแต่ละวันมาฝาก

- เพิ่มผักในทุกเมนูหรือจะเพิ่มเมนูอุดมผัก เมนูไทยๆ ประเภทผัดไท ผัดเปรี้ยวหวาน ขนมจีนน้ำยา แกงส้มผักรวม สารพัดน้ำพริกผักจิ้ม เมนูชาวใต้ก็เป็นเมนูอุดมผักดีนะ หรือจะเปลี่ยนสัญชาติสักมื้อไปชิมอาหารเวียดนามนอกบ้านบ้างก็ไม่เลวนะคะ

- เพิ่มการดื่มน้ำผลไม้ ตื่นเช้ามาดื่มน้ำผลไม้สดปลอดน้ำตาลสักแก้ว เพิ่มความสดชื่นได้ดีเชียวล่ะ ยิ่งถ้าเป็นน้ำผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูงๆ ยิ่งเพิ่มความปรู๊ดปร๊าดให้กับการทำงานของสมอง แทนที่ชา กาแฟ น้ำหวาน น้ำอัดลมที่ดื่มประจำด้วยน้ำผลไม้ และพยายามทำให้เป็นนิสัย

- มื้อว่าง ของหวานเปลี่ยนจากเมนูแป้ง น้ำตาล ไขมันมาเป็นเมนูผลไม้ เช่น ผลไม้สดๆ สับเปลี่ยนชนิดไป หรือโยเกิร์ตผสมผลไม้ เต้าฮวยฟรุตสลัด ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพรุน พรุทรา ก็หวานสดชื่นได้จ้ะ
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=29

อัพเดทล่าสุด