กลูตาไธโอนช่วยให้ผิวขาวจริงหรือ?


845 ผู้ชม


กลูตาไธโอน เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid และเป็นสารแอนซิแดนท์ชนิดละลายน้ำได้...         กลูตาไธโอน เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid และเป็นสารแอนซิแดนท์ชนิดละลายน้ำได้... 

กลูตาไธโอน ที่ร่างกายสร้างขึ้น และเป็นพื้นฐานสำหรับสารแอนติออกซิแดนท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมทั้งกลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส สารประกอบกลูตาไธโอนช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยตับในการย่อยสลายสารพิษ ซึ่งร่างกายของเราจะผลิตมากขึ้นหากได้รับสารพิษเข้าไป เช่น จากน้ำดื่ม ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ อาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำลายเซลล์ร่างกายเราและระบบร่างกาย เนื่องจากกลูตาไธโอนเป็นสารที่มีความสำคัญ จึงได้มีการติดตามผลการรับประทานสารชนิดนี้เป็นอาหารเสริมเป็นเวลาหลายปีโดยตั้งคำถามเกี่ยวกับการดูดซึมของสารอาหารชนิดนี้ นักชีววิทยาด้านเซลหลายคนเชื่อว่ากลูตาไธโอนถูกย่อยสลายให้เป็นส่วนประกอบย่อย ที่มีคุณสมบัติป้องกันการทำ ปฏิกิริยากับออกซิเจน(ได้แก่กลูตาเมท ซิสเตอีน และกลัยซีน) ในระหว่างการย่อยสลาย แต่กลูตาไธโอนในรูปที่ยังไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนนี้ เมื่อทำงานร่วมกับสารแอนไธไซยานิดีนส์ (grape seed extracts) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์แล้ว ปรากฏว่าร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและเป็นประโยชน์ในทางการรักษาโรค

กลูต้าไธโอนได้รับสมญาว่า “หัวหน้าสารต้านอนุมูลอิสระ” มันช่วยให้เรามีสุขภาพดีและชวิตยืนยาว คนที่ต้องสัมผัสกับสารพิษปริมาณมากๆ (ที่เห็นชัดๆก็พวกที่ตั้งใจรับเข้าไปเองเช่น การดื่มเหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์) จะมีการใช้กลูต้าไธโอนที่ร่างกายสร้างเองอย่างมาก (ซึ่งบางครั้งไม่เพียงพอ) หากร่างกายไม่มีกลูต้าไธโอนเซลล์จะตายอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความชรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคซึ่งกระตุ้นด้วยอนุมูลอิสระ เช่น มะเร็ง กลูต้าไธโอนมีการใช้อย่างแพร่หลายและกว้างขวาง ปัจจุบันเราพบว่าเอาไปใช้ลดอาการเมาค้าง เช่น แว๊กกี้แฮงค์ อาหารผิวเพื่อขาวใส เช่น อิมิดีน บลิ๊งค์ ไอไบร้ท์ นูไวท์ คิวมารีน ลูมินัส (ราคาในท้องตลาดมีราคาแพงโดยเฉพาะส่วนผสมที่มีกลูต้า ไธโอน 250 มก.) เป็นที่นิยมของดารา นางแบบ นายแบบ อย่างมาก การรักษาระดับของกลูตาไธโอนในรูปที่ยังไม่ได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนให้เพียงพอ อาจช่วยชะลอกระบวนการชราและเพิ่มความต้านทานโรคได้เช่นกัน เป็นสาร Detoxification เปลี่ยนสารพิษให้อยู่ในรูปที่ไม่เป็นพิษ เพื่อขับถ่ายทิ้ง เร่งประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน C และ E และทำให้อยู่ในรูปที่ดูดซึมได้เร็วขึ้น พบได้ใน ปลา, เนื้อ Asparagus,อะโวคาโด, วอลนัท

หน้าที่หลัก ของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

  • 1. Detoxification : กลูตาไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ 
  • 2. Antioxidant : กลูตาไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ 
  • 3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ prostaglandin

ผลข้างเคียงในปัจจุบันยังไม่พบผลข้างเคียง มีเพียงผลข้างเคียงเดียว แต่กลับเป็นผลข้างเคียงพึงประสงค์ของผู้หญิงเอเซียนั่นก็คือ”การที่มีผิวขาวใสขึ้น

กลูต้าไธโอนทำให้เกิดอะไรกับร่างกายเรา 

  1. ทำให้ผิวขาวขึ้น
  2. ลดริ้วรอยจุดด่างดำ
  3. ป้องกันสิวและรอยดำจากสิว 
  4. ลดริ้วรอย จากวัย 
  5. ทำให้ผิวเนียน ใส และเปล่งประกาย 

กลไกที่ทำให้ผิวขาวของกลูต้าไธโอน เกิดจากกระบวนการสร้างเมลานิน โดยกลูต้าไธโอนไปลดการสร้างโดยการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส และกระตุ้นให้สร้างฟีโอเมลานิน(สีอ่อนขาวชมพู) มากกว่ายูเมลานิน (เมลานินสีคล้ำ) ผลของกลูต้าไธโอน ในเรื่องความขาวก็ต้องขึ้นกับสีผิวเดิมของผู้ที่เริ่มกิน หากมีสีผิวอ่อนอยู่แล้วก็เห็นผลไว แต่หากมีสีผิวคล้ำเดิมต้องรอให้ร่างกายสร้างเม็ดสีอ่อนใหม่ และเซลล์ผิวเก่าที่มีสีคล้ำผลัดหมดก่อน หากคล้ำมากอาจใช้เวลาเป็นปี

จากผลการทดลองพบว่าผู้ที่มีผิวสี 

  • ผิวสีน้ำตาลอ่อน : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 1 - 3 เดือน
  • ผิวสีน้ำตาลเข้ม : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 3 - 6 เดือน
  • ผิวเข้มมาก : ใช้เวลาให้ขาวใส ประมาณ 6 - 12 เดือน
  • ผิวดำ (เช่นนิโกร) : ใช้เวลาประมาณ 2  ปีหรือมากกว่า

เมื่อร่างกายได้รับปริมาณที่เหมาะสมจะควบคุมการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกาย สวยขาวใส ไร้ริ้วรอยด่างคำ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่น ผิวใต้วงแขน ผิวบริเวณ บิกินี สีผิวริมฝีปากและสีผิวบริเวณหัวนม แลดูจางลง ขาวอมชมพูขึ้น และยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำงานร่วมกับวิตามินซี จะช่วยในเรื่องการดูดซึมและต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ผิดปกติอันเป็นสาเหตุของการเกิดความคล้ำของสีผิว กระ ริ้วรอยโดยช่วยให้ขนาดและความเข้มของรอยหมองคล้ำค่อยๆ ลดลง คืนความยืดหยุ่น เนียนสวยเป็นธรรมชาติ เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุดของโปรตีนคอลลาเจน และอิลาสติน บำรุงผิวพรรณ ช่วยลดปฏิกิริยาการเพิ่มเม็ดสีผิว เมื่อผิวหนังโดนแสงแดด และลดขนาดและความเข้มของฝ้าโดยไม่มีผลข้างเคียง
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=329&sub_id=76&ref_main_id=14

อัพเดทล่าสุด