กินอย่างไร ให้ฟันขาวแข็งแรง


สุขภาพในช่องปาก หลายมักมีปัญหาการทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่ม และทำให้ฟันของคุณนั้นมีคราบเหลือง ดูไม่ขาวสะอาดอย่างที่เคย วันนี้เรามีวิธีกินอย่างไร ให้ฟันขาวแข็งแรง เอามาฝากกันค่ะ         สุขภาพในช่องปาก หลายมักมีปัญหาการทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่ม และทำให้ฟันของคุณนั้นมีคราบเหลือง ดูไม่ขาวสะอาดอย่างที่เคย วันนี้เรามีวิธีกินอย่างไร ให้ฟันขาวแข็งแรง เอามาฝากกันค่ะ 
กินอย่างไร ให้ฟันขาวแข็งแรง

กินอย่างไร ให้ฟันขาวแข็งแรง

สุขภาพในช่องปาก การทานอาหารทุกๆ วันเข้าไปบางคนอาจคิดว่า อาหารที่เราทานเข้าไปนั้นจะเข้าไปทำลายฟันเราทุกๆ วัน ...

แต่เชื่อเถอะค่ะ อาหารบางชนิดก็ช่วยให้คุณมีฟันที่ขาว สะอาดแข็งแรงได้ งั้นเราไปทำความรู้จักอาหารเหล่านั้นกันเลย
แม้ว่าการดำเนินชีวิตอย่างเร่งรีบในปัจจุบันจะทำให้การแปรงฟันเพื่อขจัดเศษอาหารทุกครั้งหลังการกินกลายเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่นอกเหนือจากการแปรงฟันแล้วยังมีวิธีการดูแลรักษาช่องปากให้สะอาดและทำให้ฟันแข็งแรงด้วยอาหารและเครื่องดื่ม
ทำอย่างไรให้ฟันขาว
ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องทราบเสียว่า สิ่งที่มีผลต่อสีของฟันคือความหนาแน่นของผิวเคลือบฟัน ซึ่งอยู่ด้านนอกสุดของเนื้อฟัน ผิวเคลือบฟันมีความหนาแน่นเท่าไร ฟันของเราก็จะยิ่งขาวเท่านั้น เพราะตัวเคลือบฟันซึ่ง
มีสีขาวจะคลุมตัวเนื้อฟันซึ่งมีสีเหลืองเอาไว้ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นผิวเคลือบฟันจะค่อยๆ จางลงจนเห็นตัวเนื้อฟัน ส่งผลให้ฟันมีสีเหลือง ดังนั้นความเชื่อที่ว่าฟันที่มีสีขาวจะแข็งแรงกว่าฟันเหลืองจึงไม่เป็นความจริง
ทั้งหมด
ส่วนถ้าคุณอยากให้ฟันขาวแลดูสะอาดมีรอยยิ้มที่ดึงดูด ด้วยวิธีการตามธรรมชาตินั้นคงต้องแนะนำให้ใช้มะนาว เพราะมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดจึงช่วยทำให้ฟันขาวขึ้น วิธีการก็คือให้ใช้มะนาวถูฟัน หลังจากนั้นก็แปรงฟันตามปกติ เพียงแต่ว่าไม่ควรทำบ่อยๆ เพราะมะนาวอาจจะทำลายผิวเคลือบฟันได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลมที่มีสีเข้ม รวมถึงการสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำลายความขาวใสของฟัน
อาหารที่ช่วยให้ฟันสุขภาพดี
สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยให้ฟันมีสุขภาพดีมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดดังต่อไปนี้
  • อาหารที่มีเส้นใย เพราะตัวเส้นใยจะช่วยขจัดคราบอาหารที่ติดอยู่บนฟัน และในระหว่างเคี้ยวเส้นใยจะขัดถูสิ่งที่ติดแน่นบนฟันให้หลุดออกไป
  • ชาเขียว เพราะมีฟลูออไรด์ซึ่งช่วยเสริมสร้างฟันให้แข็งแรง
  • นมและโยเกิร์ต เพราะมีแคลเซียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของฟัน
  • ชีส เพราะชีสมีฟอสเฟต ซึ่งช่วยป้องกันแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของฟันผุ นอกจากนี้ฟอสเฟตในชีสยังช่วยรักษาความสมดุลของกรดและด่างในช่องปากอีกด้วย
  • ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เงาะ เพราะวิตามินซีจะช่วยรักษาเหงือกให้แข็งแรง
  • งา ผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอสูง เช่น มะละกอ มะเขือเทศ แครอท เพราะวิตามินเอจะช่วยการก่อรูปของผิวเคลือบฟัน
  • เนื้อไม่ติดมัน เพราะมีฟอสฟอรัส อันเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนต่อความแข็งแรงของฟัน
  • บรอคโคลีและกะหล่ำปลี เพราะเป็นแหล่งของวิตามินเค ซึ่งช่วยในการดูดซึมแคลเซียม อันเป็นองค์ประกอบของฟัน
  • กล้วย มันฝรั่ง หรือผักมีใบ เพราะอุดมด้วยวิตามินบี ซึ่งช่วยรักษาเนื้อเยื่ออ่อนๆ ในช่องปาก เช่น เหงือก ลิ้น เยื่อเมือก
  • น้ำ นอกจากจะช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานเป็นปกติแล้ว น้ำยังมีต่อสุขภาพช่องปากด้วย เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อใช้ในการผลิตน้ำลาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อฟันมาก เพราะน้ำลายจะลดความเป็น กรดในช่องปาก จึงช่วยป้องกันฟันผุ อย่างไรก็ดีคำแนะนำที่ว่าคนเราควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว อาจจะเป็นคำแนะนำที่ไม่จริงเสมอไป เพราะบางครั้ง ร่างกายของคนบางคนก็ต้องการน้ำมากกว่านี้ เช่น
    นักกีฬาที่ต้องอยู่ท่าม กลางแสงแดด ในทางตรงกันข้าม บางคนอาจต้องการน้ำน้อยกว่า เช่น ผู้สูงอายุ ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ดังนั้นวิธีที่จะรู้ว่าคุณควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร คือให้สังเกตจากสีของปัสสาวะหากมีสีเข้มแสดงว่าคุณดื่มน้ำน้อยไป ควรดื่มให้มากขึ้น
เรียกว่านอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การกินดื่มอย่างถูกวิธียังช่วยประหยัดเงินค่าทำฟันอีกด้วย ยังไงก็ลองนำไปทำตามกันดูเพื่อสุขภาพฟันของคุณน่ะค่ะ
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=3252&sub_id=108&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด