สุขภาพกายดี : สุขภาพจิตดี


สุขภาพจิตที่ดีของคนๆ หนึ่ง จะต้องมีรากฐานมาจากการที่คนๆ นั้นมีสุขภาพกายที่ดีมาก่อน          สุขภาพจิตที่ดีของคนๆ หนึ่ง จะต้องมีรากฐานมาจากการที่คนๆ นั้นมีสุขภาพกายที่ดีมาก่อน 

คำกล่าวเหล่านี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจของมนุษย์ทุกคนให้พยายามปฏิบัติตนให้มีสุขภาพกายที่ดี โดยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์พอดี ออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ...
สุขภาพจิตที่ดีของคนๆ หนึ่ง จะต้องมีรากฐานมาจากการที่คนๆ นั้นมีสุขภาพกายที่ดีมาก่อน คำกล่าวเหล่านี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจของมนุษย์ทุกคนให้พยายามปฏิบัติตนให้มีสุขภาพกายที่ดี โดยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์พอดี ออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการบริโภคสารที่มีอันตรายต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็คร่างกายตามระยะเวลาที่เหมาะสม ถ้าหากการะทำเช่นนี้แล้ว สุขภาพกายของท่านคงจะอยู่ในขึ้นดีถึงดีมากอย่างแน่นอน เพราะหากผู้ใดมีสุขภาพกายที่ไม่ดี มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งจำเป็นต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาเป็นประจำ สุขภาพจิตของบุคคลผู้นี้คงไม่สมบูรณ์เต็มที่เหมือนคนสุขภาพกายแข็งแรงเป็นแน่ เพราะจิตใจคงว้าวุ่นหวั่นวิตก การบีบคั้นจากสิ่งแวดล้อมที่มีเวลาน้อยอยู่แล้วในการทำงานและพักผ่อน แต่กลับต้องมาใช้เวลากับการตรวจรักษาสุขภาพกายที่มีปัญหา ดังนั้นท่านต้องให้ความสำคัญต่อสุขภาพกายอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ภายใต้ความตั้งใจจริงของท่านอย่างแน่นอน

ส่วนสุขภาพจิตที่ดีนั้น ท่านสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้โดย

  1. ท่านต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ต่างๆ เช่น โกรธ เกลียด วิตกกังวล ต้องมีความอดทนต่อสิ่งที่ไม่สมหวัง มีความเชื่อมั่นว่าตนเองจะสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้
  2. ท่านต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อผู้อื่น มองโลกในแง่ดี อยากเป็นเพื่อนที่ดี เป็นผู้ร่วมงานที่ดีกับคนอื่นๆ ให้ความรักความเมตตา และให้อภัยผู้อื่น หากเกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
  3. ท่านต้องสามารถเผชิญกับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวท่านให้ได้ ด้วยความรับผิด ชอบที่มีอยู่ ความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา หากได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ยังแก้ปัญหาไม่ได้ การปรึกษาหารือกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหายหรืออับอายอะไร

ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=680&sub_id=71&ref_main_id=2

อัพเดทล่าสุด