เมื่อไรจึงต้องให้อาหารเสริมกับลูกน้อย


การทานอาหารที่ช่วยให้ลูกของคุณเจริญเติมโตสมวัย ดูจะไม่พอเสียแล้วเพราะปัจจุบันคุณแม่ยุคใหม่ต้องการให้ลูกนั้นเก่งแทบจะทุกด้าน หรือมีร่างกายที่พร้อมจะรับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเล่นซนแค่ไหนก็ตาม         การทานอาหารที่ช่วยให้ลูกของคุณเจริญเติมโตสมวัย ดูจะไม่พอเสียแล้วเพราะปัจจุบันคุณแม่ยุคใหม่ต้องการให้ลูกนั้นเก่งแทบจะทุกด้าน หรือมีร่างกายที่พร้อมจะรับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเล่นซนแค่ไหนก็ตาม 
เมื่อไรจึงต้องให้อาหารเสริมกับลูกน้อย

เมื่อไรจึงต้องให้อาหารเสริมกับลูกน้อย

คุณแม่ยุคใหม่มักเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตของลูกของคุณแทบจะทุกด้าน และรวมถึงอาหารการกิน

และรวมถึงอาหารการกิน และการเลือกที่จะทานอาหารเสริมเพื่อให้ลูกน้อยของคุณนั้นมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ ที่ช่วยให้คุณแม่เตรียมพร้อมกับลูกน้อยของคุณให้ได้รับอาหารเสริมอย่างครบถ้วน และเพียงพอในแต่ละวัน และในแต่ละวัยของลูกน้อยด้วยค่ะ
อาหารเสริมกับอาหารหลักต่างกันอย่างไร ถ้าไม่ให้อาหารเสริมได้หรือไม่ และควรเริ่มให้อาหารเสริมลูกเมื่อไหร่
“ในเด็กเราให้นมเป็นอาหารหลัก สิ่งอื่นที่ให้เข้าไปก็คืออาหารเสริม คือในเด็กช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี ปกติเด็กจะอยู่ได้ด้วยน้ำนมแม่ แต่มันไม่เพียงพอ เพราะตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ร่างกายมีความต้องการที่มากขึ้น ต้องการสารอาหารแบบโปรตีน คาร์โบไฮเดท ไขมัน ที่เพิ่มเติม ซึ่งถ้าเด็กได้รับสารอาหารที่ช้าเกินไป โดยเฉพาะหลังจาก 8 เดือน นักวิจัยบอกว่า จะทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายลดลง และการพัฒนาทางด้านสติปัญญาช้าลง
ประโยชน์ของอาหารเสริม ถ้าทารกได้ในกลุ่มของวิตามิน เกลือแร่ โดยเฉพาะที่ได้จากผัก ผลไม้ จะช่วยขับของเสียออกจากลำไส้ด้วย และการที่เด็กได้รับอาหารเสริมที่ถูกต้อง จะมีผลต่อสุขภาพเด็กในระยะยาวอย่างเช่น การที่เด็กได้รับใยอาหาร จะทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ในอนาคต”
ควรให้อาหารเสริมลูกตั้งแต่อายุกี่เดือน และอาหารเสริมที่แนะนำควรเป็นอย่างไร
“ควรให้ตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป หรือเด็กบางคนที่มีพัฒนาการเร็ว ก็อาจให้ตั้งแต่ 4 เดือน แต่ไม่ควรให้ก่อน 4 เดือนและไม่ควรให้หลังจาก 8 เดือน เพราะได้มีพัฒนาการไปแล้ว แล้วได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เขาก็จะรู้สึกว่าขาด พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็จะกินเยอะ
ช่วงอายุ 6 – 9 เดือน ควรให้อาหารเสริมวันละ 1 ครั้ง แต่พอ 9 - 12 เดือน  ควรให้ 1 - 2 ครั้งต่อวัน แต่พอหลัง 1 ขวบไปแล้วเราอาจให้ได้มากกว่านั้น อาจจะเป็น 3 มื้อ หลัง 2 ปีไปแล้ว อาจให้อาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว จำพวกข้าว ธัญพืช โปรตีน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ผักและผลไม้ เช่น กล้วย ฟักทอง แอปเปิ้ล เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ของที่ควรหลีกเลี่ยงในทารกที่อายุไม่เกิน 1 ปี คือ ไข่ขาวจะแพ้ พวกแป้งสาลี ขนมปัง ทำให้แพ้ น้ำมูกไหล ขยี้ตา สำหรับอาหารตระกูลถั่ว น้ำผึ้ง ควรให้ทานหลัง 2 ปี ขึ้นไป”

มีเทคนิคอย่างไรบ้างในการให้อาหารเสริมกับลูก จะทำอย่างไรให้ลูกคุ้นเคยกับการกินอาหาร และชอบกิน
“การจะให้อาหารเสริมกับลูก ต้องดูจากลูกตัวเองเป็นสำคัญ โดยเขาจะมีอาการอยากกินของเขาเอง อย่าบังคับ ถ้าหิวก็จะทานเอง ทำได้แค่เลือกให้เขา ที่รสจืดที่สุด ปรุงแต่งน้อยสุด ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดเขาจะเริ่มจากมองอาหารที่เราหยิบเข้าปาก ถ้าเราป้อนแล้วเขาคายออกมา แสดงว่าเขายังไม่พร้อม แต่ว่าถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่เขาจะไม่ คือจะกลืนได้มากขึ้น ถ้าเราไปฝืนตั้งแต่แรก จะทำให้ร่างกายมีระบบไม่ดีพออาจจะสำลักได้ มันเป็นกลไกล
และที่สำคัญ ควรคำนึงถึงคุณค่า และสัดส่วนทางอาหารที่เด็กจะได้รับ รวมถึงความพร้อมของเด็กที่ควรจะต้องได้ ผักและผลไม้เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่เด็กในไทยค่อนข้างจะได้รับน้อย เพราะฉะนั้นในการที่เราส่งเสริมให้เด็กเล็กมีวามคุ้นเคยกับผักและผลไม้ ก็จะทำให้เมื่อเวลาโต เด็กจะมีพฤติกรรมการบริโภคที่ชิน และชอบกับการกินผักและผลไม้”

ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=3216&sub_id=41&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด