ปรับสมดุลหลังคลอดด้วย Holistic


832 ผู้ชม


หลังคลอดร่างกายของผู้หญิงเราจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และฮอร์โมน จึงทำให้คนเป็นแม่เสียสมดุล ซึ่งการรับมือการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดเกิดขึ้นเกิดจากธรรมชาตินี้ ก็ควรใช้ธรรมชาติในการปรับคืนความสมดุลค่ะ           หลังคลอดร่างกายของผู้หญิงเราจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และฮอร์โมน จึงทำให้คนเป็นแม่เสียสมดุล ซึ่งการรับมือการเปลี่ยนแปลงหลังคลอดเกิดขึ้นเกิดจากธรรมชาตินี้ ก็ควรใช้ธรรมชาติในการปรับคืนความสมดุลค่ะ 
ความเปลี่ยนแปลงแม่หลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่หลังคลอดมีหลายระดับ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น ไขมันที่สะสมมา 9 เดือน หน้าอกที่อึ๋มขึ้น หรือฮอร์โมนที่ปรับเปลี่ยน และอารมณ์ที่เปลี่ยน ก็จะทำให้ผู้หญิงร้องไห้ง่ายและอ่อนไหว รู้สึกไม่อยากออกไปไหนและขี้ลืม
แน่นอนว่าตัวของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่มากที่สุด เวลาลูกอยู่ในท้อง 9 เดือนแม่จะสะสมสิ่งต่างๆ ไว้ในมดลูกเพื่อให้ลูกใช้ แต่พอคลอดลูกออกมาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นยังหลงเหลืออยู่ข้างใน เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องพยายามทำให้มดลูกสะอาดก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ธรรมชาติพยายามที่จะช่วยคุณแม่ โดยการขับของเสียออกจากร่างกายในช่วง 30-40 วันหลังคลอด เพื่อช่วยทำความสะอาด เพราะว่ามดลูกถือเป็นศูนย์กลางที่จะทำให้ร่างกายผู้หญิงแข็งแรงขึ้นหลังคลอด ถ้ามดลูกสะอาดก็จะไม่มีสารพิษตกค้าง ร่างกายก็จะแข็งแรงง่ายขึ้นและดีขึ้น
ปรับสมดุลตามหลัก Holistic
เรื่องการปรับสมดุลหลังคลอดจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ คือ Diet อาหารการกินของคุณแม่หลังคลอด Lifestyle เรื่องการใช้ชีวิตทั่วๆ ไป และ Body Work ดูแลรูปร่างให้แม่คนใหม่
1. Diet เรื่องของการเลือกกิน คุณแม่หลังคลอดต้องไม่กินของเย็น ของในตู้เย็น อาหารแช่แข็ง มันฝรั่ง ขนม หรือเครื่องดื่มบางอย่าง เช่น น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ไวน์ไม่ควรจะดื่มเด็ดขาด โดยเฉพาะช่วง 40 วันหลังคลอด เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายของคุณแม่เริ่มผลิตน้ำนมให้ลูก ถ้ากินหรือดื่มของเหล่านี้เข้าไปจะทำให้น้ำนมคุณแม่คุณภาพไม่ค่อยดี
อาหารที่ทางอายุรเวชแนะนำให้คุณแม่หลังคลอดกินหรือดื่ม ก็มักจะเป็นอาหารอุ่น เพราะความอุ่นจะทำให้น้ำนมไหลเยอะ ไม่บล็อกกระบวนการสร้างน้ำนม นอกจากนั้นก็แนะนำอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ไดเอตโปรตีน มีไขมันบ้างเล็กน้อย ซึ่งควรเลือกเป็นไขมันที่ย่อยได้ง่าย เช่น ข้าวต้มไก่ เพราะเนื้อไก่จะมีไขมันตามธรรมชาติอยู่แล้ว แล้วก็ใส่สมุนไพรเข้าไป สมุนไพรที่สำคัญมากที่สุดที่จะช่วยร่างกายเราขับของเสียออกจากร่างกายก็คือ ขิง ใบกะเพรา ตะไคร้ กระชาย พริกไทยดำ ใบมะกรูด หรือสมุนไพรของอินเดียเช่น มีเฟนอลกับคาร์เนมอม เม็ดคิลมิ้นซีด และขมิ้นด้วย
2. Lifestyle ถือเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ค่ะ ร่างกายคุณแม่หลังคลอด 40 วัน ดูภายนอก 40 วัน อาจจะดูแข็งแรงดี แต่ว่าภายในแล้วยังไม่แข็งแรง ร่างกายยังคงจำช่วงที่เวลาที่คลอดลูกซึ่งใช้พลังมากๆ ได้ กว่าจะใช้เวลาปรับเข้าที่ก็ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตช่วงนี้ก็ควรเบาๆ ถ้าทำงานหรือใช้ร่างกายหนักๆ มากๆ กล้ามเนื้อต่างๆ อาจจะฉีกขาดง่าย
ถ้าอยากออกกำลังกายบ้างก็สามารถทำได้ ให้เป็นแบบทีละเล็กละน้อย หลังจาก 30 วันก็เริ่มเดิน ไม่ใช่นั่งนิ่งๆ ตลอด และก็แนะนำโยคะกับเบลลาเต้เพราะจะทำให้คุณแม่ผ่อนคลายและร่างกายกระชับด้วย แต่อย่าเพิ่งเต้นแอโรบิกหรือจ้อกกิ้งแรงๆ การออกกำลังกายอย่างเต็มที่ควรเริ่มหลังจาก 6 เดือน รอให้ร่างกายแข็งแรงเต็มที่ก่อน
ส่วนเรื่องปาร์ตี้ตามสไตล์คุณแม่สมัยใหม่ อย่าเพิ่งไปเฮฮามากๆ ช่วงนี้อยู่บ้านดีกว่าค่ะ สังเกตสิคะว่า ถ้าออกไปปาร์ตี้เวลากลับมาถึงบ้านจะบอกว่า โอย...เวียนหัว ไม่ไหว วิงเวียน ฯลฯ นี่เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะว่าเรายังไม่แข็งแรงเต็มที่ ช่วงนี้ก็งดออกนอกบ้านชั่วคราวนะคะ
3. Body Work จะช่วยกระชับตัวคุณแม่ให้มีความร้อนเข้าไปในร่างกาย แล้วไล่สารพิษออกมา เป็นการดีท็อกซ์แบบหนึ่งค่ะ Body work ที่คนไทยแนะนำมาคือ นวดหม้อดิน ที่ใส่สมุนไพรหลากหลายชนิด โดยการทำประคบก่อนแล้วเอาหม้อดินมานวดอีกที เพื่อให้ความร้อนช่วงหน้าท้องมดลูก และก็ให้นั่งอยู่ไฟ
Treatment แบบนี้ถือว่ามันเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ช่วยได้จริง ไม่ควรจะมองข้ามนะคะ ที่แนะนำเพิ่มคือ หลังนวดตัวด้วยการนวดน้ำมันเสร็จควรเอาผ้า cotton นิ่มๆ 6 ฟุตก็ได้ มาพันหน้าท้อง พันดีๆ แน่นๆ ไว้สักชั่วโมงสองชั่วโมง เพราะเมื่อนวดเสร็จไขมันที่สะสมอยู่ข้างในจะเริ่มออกมา และช่วงหลังคลอดเสร็จมันจะมีลมเยอะมาก เมื่อสะสมไขมันมากๆ ก็จะไปอยู่ที่ช่องว่างๆ นั้นทำให้คุณแม่หลังคลอดมีหน้าท้องและไม่ยุบ แต่ถ้าพันไว้จะช่วยลดไขมันสะสมหน้าท้องได้ค่ะ
ด้วยเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่คุณแม่จะทำหรือปรับตัวค่ะ แม้ว่าอาจจะขัดกับวิถีชีวิตปกติของ Working Mom บ้าง แต่ก็เชื่อว่าทุกคนจะสามารถนำเอาหลักการจัดสมดุลด้วย Holistic ไปปรับและใช้ได้แน่นอนค่ะ
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1877&sub_id=46&ref_main_id=11

อัพเดทล่าสุด