นวดฝ่าเท้า 3 ประสาท ศาสตร์แห่งการบำบัดแบบจีน


1,119 ผู้ชม


แพทย์ทางเลือกสามประสาน คือ การนำวิธีนวดฝ่าเท้าแบบจีนมาประสานกับการนวดกดจุดลมปราณและประสานกับการวางถ้วยดูดระบบสุญญากาศ (ครอบกระปุก)         แพทย์ทางเลือกสามประสาน คือ การนำวิธีนวดฝ่าเท้าแบบจีนมาประสานกับการนวดกดจุดลมปราณและประสานกับการวางถ้วยดูดระบบสุญญากาศ (ครอบกระปุก) 
แพทย์ทางเลือกสามประสาน เป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกที่เน้นการเสริมสุขภาพ  และหลักการรักษาแบบองค์รวม ปรับภาวะให้ร่างกายเกิดความสมดุลเป็นการผสมผสานศาสตร์การแพทย์จีน  เป็นการแพทย์ที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
นวดฝ่าเท้าแบบจีน  แตกต่าง  กับการนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพอย่างไร?
นวดฝ่าเท้าแบบจีน   มีประวัติยาวนานมา  4-5 พันปี  เป็นวิธีนวดฝ่าเท้าที่สามารถนำเสริมสร้างสุขภาพ   และขจัดแก้ไขอาการโรคต่างๆ  10 ปีก่อน อาจารย์สุทัศน์  กุลสันติพงศ์   เดินทางเฉพาะไปที่เมืองจูไห่  (ติดกับมาเก๊า)  ประเทศจีน ศึกษาวิธีนวดฝ่าเท้าแบบจีนกับแพทย์จีนอาจารย์จงเชิงเวย (วิธีการนวดฝ่าเท้าแบบจีนนี้เป็นวิชาชีพเฉพาะของตระกูลอาจารย์จงเชิงเวย ปกติจะถ่ายทอดวิชาชีพให้เพียงแค่ลูกหลานในตระกูล อาจารย์สุทัศน์ โชคดีที่ได้รับความเชื่อใจจากอาจารย์จงเชิงเวย  ยินดีรับอาจารย์สุทัศน์เป็นศิษย์  และถ่ายทอดวิชาชีพนี้ให้กับอาจารย์สุทัศน์)
วิธีการนวดฝ่าเท้าแบบจีน   เน้นการใช้ไม้นวดเป็นหลักประสานกับใช้มือนวดบางเวลา    การนวดต้องนวดแบบมีระบบ สม่ำเสมอต่อเนื่อง  และนวดหันไปทิศทางเดียว   นวดหันเข้าสู่ร่างกายสู่ปอดสู่หัวใจ   เพื่อผลักดันให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างมีพลังมีประสิทธิภาพ   นวดฝ่าเท้าแบบจีนสามารถนวดได้ทุกวัน   วันหนึ่งนวดได้  2-3 ครั้ง  ยิ่งนวดสุขภาพก็จะยิ่งแข็งแรง   ต่างกับ  การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพทั่วไปที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน  การนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพวันหนึ่งห้ามนวดเกิน  1 ครั้ง  อาทิตย์หนึ่งนวดได้ไม่เกิน  3  ครั้ง   และเพียงนวดเพื่อสุขภาพไม่มีผลต่อการรักษา
นวดฝ่าเท้าแบบจีนมีผลมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร?
ตามทฤษฎีของการนวดฝ่าเท้าได้กล่าวไว้ว่า  ที่ฝ่าเท้าของมนุษย์เรามีเขตสะท้อน 64  เขต กระจายทั่ว  2  ข้างเท้า  แต่ละเขตสะท้อนมีเกี่ยวสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกาย กล่าวคือ ถ้าหากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งทำงานบกพร่องหรือกระทั่งเกิดอาการเจ็บปวด  ก็จะส่งผลสะท้อนไปเขตสะท้อนที่ฝ่าเท้า  เกิดมีอาการเจ็บปวดตามมา  เช่นเดียวกันในเวลาที่เขตสะท้อนที่ฝ่าเท้าเกิดมีอาการเจ็บปวด หรือเปลี่ยนรูปทรง  ก็จะส่งผลสะท้อนไปถึงอวัยวะภายในร่างกายที่เกี่ยวสัมพันธ์   ทำให้เกิดมีอาการเจ็บปวดหรือปฏิบัติหน้าที่บกพร่องตามมา  เวลาเราทำการนวดฝ่าเท้ากับเขตสะท้อนที่มีอาการเจ็บปวดหรือเปลี่ยนรูปทรง  พลังแรงนวดได้กระตุ้นถูกเซลล์ประสาทที่หล่อเลี้ยงอยู่รอบข้างเขตสะท้อนและอวัยวะภายในที่เกี่ยวสัมพันธ์  (โดยผ่านศูนย์กลางประสาทเชื่อมโยง)  ตื่นตัวทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและผลักดันให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยเฉพาะได้ผลักดันให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวเข้ามากำจัดของเสียสารพิษออกจากผนังหลอดเลือด  ทำให้หลอดเลือดขยายกว้างขึ้น   เลือดไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ  อาการเจ็บปวดที่มีอยู่ก็จะทยอยทุเลาหายดี 
ลมปราณคืออะไร   มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอย่างไร?
หนังสือต้นตำรับแพทย์แผนจีน  “หวยตี้เน่ยจิง”   ประมาณ  5,000  ปีก่อน  มีระบุไว้ว่าร่างกายมนุษย์มีระบบเส้นลมปราณ  เชื่อมโยงกับอวัยวะเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆ  ของร่างกาย  เป็นเส้นทางลำเลียงเลือดลมไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ  เนื้อเยื่อต่างๆ ให้ทำงานเป็นปกติและมีภูมิต้านทานการรุกรานของสาเหตุโรคจากภายนอก  นอกจากนั้นเส้นลมปราณยังสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของอวัยวะภายในกับผิวหนังและช่วยปรับสมดุลในการทำงานของร่างกาย
หลายพันปีที่ผ่านมาทฤษฎีของระบบเส้นลมปราณจึงได้ถูกแพทย์แผนจีนโบราณนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยอาการโรค  และบำบัดโรคต่างๆ  ให้กับผู้ป่วย   วิธีการบำบัดโรคโดยการฝังเข็ม  ทุยน่า   วางถ้วยดูดสุญญากาศ   นวดกดจุดลมปราณ  และการใช้ยาสมุนไพรจีนในการบำบัด  ต่างต้องอิงกับทฤษฎีของระบบเส้นลมปราณ  โดยเฉพาะการทำหน้าที่สรีระของเส้นลมปราณและจุดลมปราณ
พลังจากการนวดกดจุดลมปราณ
จุดลมปราณเป็นจุดที่มีชื่อเฉพาะ ที่ตั้งแน่นอน เป็นจุดสะท้อนอาการไหลเวียนของเลือดลม  สะท้อนการปฏิบัติหน้าที่ของเส้นลมปราณ  และสะท้อนอาการของอวัยวะภายใน
จากที่เส้นลมปราณและจุดลมปราณต่างๆ ในร่างกายมีสัมพันธ์เชื่อมโยงกับอวัยวะภายในร่างกายและยังปฏิบัติหน้าที่งานทางสรีระวิทยาสำคัญ   และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย  การนวดกดจุดลมปราณจึงเกิดพลังและมีประโยชน์   เช่นเดียวกับการนวดเขตสะท้อนที่ฝ่าเท้า  คือ เป็นการกระตุ้นผลักดันให้เซลล์ประสาทที่หล่อเลี้ยงอยู่รอบตัวตื่นตัวปฏิบัติหน้าที่อย่างกระฉับกระเฉง  ส่งผลผลักดันให้เลือดปรับการไหลเวียนหล่อเลี้ยงเข้าสู่การไหลเวียนอย่างมีระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพ   นอกจากปรับการปฏิบัติหน้าที่ของจุดลมปราณเข้าสู่ปกติแล้วยังส่งผลทำให้อวัยวะที่เกี่ยวพันกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ    โดยเฉพาะเวลาทำการนวดบำบัดหรือทำการนวดเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ    เราทำการนวดกดจุดลมปราณต่างๆ  ของ  2  เส้นลมปราณคือ  เส้นลมปราณตู   และเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ   ซึ่งกระจายอยู่แผ่นหลังของร่างกาย ให้ถ้วนทั่วควบคู่กับการนวดกดจุดลมปราณตามเส้นลมปราณอื่นที่มีปัญหา  ที่มีอาการเจ็บปวดหรือเปลี่ยนรูปทรงไปพร้อมกัน   ถือเป็นวิธีการบำบัดอาการโรคแบบองค์รวมแบบหนึ่งโดยขจัดแก้ไขอาการโรคทั่วหน้า   ควบคู่กับการเน้นขจัดแก้ไขอาการโรคเฉพาะไปพร้อมๆ  กัน   ซึ่งเป็นวิธีเสริมสร้างสุขภาพและการบำบัดที่มีประสิทธิภาพ   เนื่องจาก  2  เส้นลมปราณเกี่ยวสัมพันธ์และควบคุมการปฏิบัติหน้าที่งานของอวัยวะต่างๆ  ภายในร่างกาย   เช่น  สมอง  ต้นคอ  ปอด  หัวใจ  กระบังลม  ตับ  ถุงน้ำดี  กระเพาะอาหาร  ม้าม  ไต  ลำไส้ใหญ่  ลำไส้เล็ก  กระเพาะปัสสาวะ  มดลูก  ฯลฯ
ที่มา  https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2067&sub_id=12&ref_main_id=3

อัพเดทล่าสุด