Adapalene (เอดาพาลีน)


เอดาพาลีน (adapalene) ใช้สำหรับรักษาสิว ออกฤทธิ์โดยการป้องกันการอุดตันของรูขุมขน เอดาพาลีน (adapalene) ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น         เอดาพาลีน (adapalene) ใช้สำหรับรักษาสิว ออกฤทธิ์โดยการป้องกันการอุดตันของรูขุมขน เอดาพาลีน (adapalene) ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น 
ก่อนการใช้ยา
การแพ้ยา
โปรดแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านเคยมีอาการผิดปกติใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยาเอดาพาลีน (adapalene) หรือ ส่วนประกอบใด ๆ ในยานี้ รวมทั้งการมีประวัติเคยแพ้สารอื่นๆ เช่น อาหาร สารกันเสียหรือสี เป็นต้น
ตั้งครรภ์
ABCDX
รายการนี้จัดอยู่ในประเภท 'C' สำหรับสตรีมีครรภ์ ประเภท 'C' หมายถึง
จากการศึกษาในสัตว์พบว่ายาทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีรายงานการศึกษาที่ควบคุมอย่างดีในมนุษย์ หรือ ไม่มีรายงานการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ถึงผลของยาต่อตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรใช้ยานี้เมื่อมีการประเมินแล้วว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์
ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาในสตรีมีครรภ์ ไม่แนะนำการใช้ยานี้ในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะเคยมีรายงานว่าการใช้เอดาพาลีน (adapalene) ในขนาดสูงทำให้กระดูกของตัวอ่อนในครรภ์ของสัตว์ทดลองมีปัญหา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากท่านกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์
กำลังให้นมบุตร
ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเอดาพาลีน (adapalene) สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้หรือไม่
เด็ก
ยานี้ยังไม่มีการศึกษาในเด็กจึงไม่มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในการเปรียบเทียบการใช้เอดาพาลีน (adapalene) ในเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีกับช่วงอายุอื่นๆ
ในวัยรุ่นคาดว่าจะไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่แตกต่างจากที่พบในผู้ใหญ่
ผู้สูงอายุ
ยาหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาในผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงยังไม่ทราบการทำงานที่แท้จริงของยาว่ามีการทำงานเช่นเดียวกันกับในผู้ป่วยวัยอื่นหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ทราบว่ายานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง, ปัญหาใดๆที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการใช้เอดาพาลีน (adapalene) ในผู้สูงอายุกับวัยอื่นๆ ผู้สูงอายุมักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิว
ยาอื่นที่ใช้อยู่
ถึงแม้ว่ายาบางอย่างไม่ควรใช้ร่วมกัน ในบางกรณีที่จำเป็นอาจใช้ร่วมกันได้ถึงแม้ว่าอันตรกิริยาอาจเกิดขึ้นก็ตาม โดยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขนาดยาหรืออาจมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่จำเป็น เมื่อท่านต้องการจะใช้เอดาพาลีน (adapalene) ท่านต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านกำลังใช้ยาต่อไปนี้อยู่
ยาทาอื่นๆที่ทาบริเวณเดียวกับเอดาพาลีน (adapalene)
ภาวะโรคร่วม
ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นที่ท่านเป็นอยู่อาจส่งผลต่อการใช้เอดาพาลีน (adapalene) ท่านควรแจ้งบุคลากรทางการแพทย์หากท่านมีสภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น
ภาวะผิวหนังอักเสบ (dermatitis), การอักเสบของต่อมไขมัน (seborrheic dermatitis), โรคแพ้ผื่นคัน (eczema) การใช้ยานี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น ภาวะโรคดังกล่าวยิ่งแย่ลงหรืออาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะดังกล่าว
การใช้ที่ถูกต้อง
ควรใช้ยาตามแพทย์สั่งหรือตามที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้มากกว่า, บ่อยกว่าและนานกว่าที่แพทย์สั่ง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้
ไม่ควรทายานี้กับอาการผิวหนังอักเสบเนื่องจากถูกลมแรง (windburned), แสงแดดจัด(sunburned) หรือบริเวณแผลเปิด
ไม่ควรทายานี้บริเวณรอบดวงตา, ริมฝีปากหรือในจมูก ขณะใช้ยานี้ควรทายาให้ห่างจากบริเวณดังกล่าว หากยาสัมผัสบริเวณดังกล่าวควรรีบล้างด้วยน้ำสะอาด
เพื่อช่วยในการรักษาสิว ท่านควรใช้ยาให้ครบตามกำหนด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตามหลังจากใช้ในระยะสั้นๆ หากท่านหยุดใช้ยาเร็วเกินไป อาจกลับมาเป็นสิวได้อีก
ขนาดยา
ขนาดยาของเอดาพาลีน (adapalene) อาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ควรใช้ยาตามใบสั่งยาของแพทย์หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
เมื่อลืมใช้ยา
หากท่านลืมใช้ยาให้รีบทายาทันทีที่นึกได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าใกล้ถึงการทายาครั้งต่อไปให้ข้ามไปทายาในขนาดยาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
การเก็บรักษา
เก็บให้พ้นมือเด็ก
ทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ
ข้อควรระวัง
ในช่วง 3 สัปดาห์แรกที่ท่านใช้เอดาพาลีน (adapalene) อาการสิวจะยิ่งแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้นในภายหลัง จะเห็นผลในการรักษาเต็มที่เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ 12 โดยเฉพาะหากท่านใช้ยาทุกวัน ท่านไม่ควรหยุดใช้เอดาพาลีน (adapalene) หากอาการสิวของท่านแย่ลงในช่วงแรกยกเว้นมีอาการระคายเคืองรุนแรงมาก ควรกลับไปพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 8–12 สัปดาห์
ควรหลีกเลี่ยงการทาเภสัชภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผิวเหล่านี้ในบริเวณเดียวกับที่ทาเอดาพาลีน (adapalene) เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง
เภสัชภัณฑ์เกี่ยวกับสิวอื่นๆ หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหนังที่ประกอบด้วยสารกระตุ้นการหลุดลอกของผิวหนังชั้นนอก (peeling agent) เช่น เบนโซอิลเพอรอกไซด์ (benzoyl peroxide), รีซอซินอล (resorcinol), กรดซาลิซิลิก (salicylic acid) หรือซัลเฟอร์ (sulfur) เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมหรือขนซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้เช่น ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมหรือขน, ผลิตภัณฑ์แวกซ์ขน
ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหนังที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณมาก เช่น ผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนหรือโลชั่นปรับสภาพผิว, ครีมโกนหนวด, โลชั่นทาหลังโกนหนวด เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังแห้งเกินไปหรือระคายเคืองผิวหนังมากๆ เช่น เครื่องสำอางบางประเภท, สบู่, ครีมอาบน้ำ เป็นต้น
แพทย์อาจแนะนำท่านให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทารักษาสิวชนิดอื่นๆ ร่วมกับเอดาพาลีน (adapalene) เช่น เบนโซอิลเพอรอกไซด์ (benzoyl peroxide), คลินดาไมซิน (clindamycin), อีริโทรไมซิน (erythromycin) เป็นต้น
หากผิวหนังของท่านแห้งหรือแดงมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าท่านควรใช้เอดาพาลีน (adapalene) ต่อไปหรือไม่ และควรทาครีม, โลชั่นหรือผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง (moisturizer) เพื่อช่วยลดปัญหาผิวดังกล่าว
ในระหว่างการรักษาด้วยยานี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและการใช้หลอดไฟเนื่องจากอาจทำให้ผิวยิ่งแสบไหม้หรือระคายเคืองมากขึ้น ควรใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 15 และควรสวมเสื้อผ้า, หมวกเพื่อป้องกันแสงแดดจัด ลมแรงหรืออากาศหนาว
อาการไม่พึงประสงค์
ยาอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ต้องการ ถึงแม้ว่าอาการข้างเคียงต่อไปนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด แต่หากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ก. ควรพบแพทย์ทันที หากมีอาการข้างเคียงต่อไปนี้เกิดขึ้น
พบบ่อย (โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกของการใช้)
รู้สึกแสบร้อนผิวหนัง, ผิวหนังบริเวณที่ทายาแห้งและซีดจางลง, ผิวหนังแดง, มีอาการคันที่ผิวหนัง
ข. อาการข้างเคียงอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปในระหว่างการรักษาเนื่องจากร่างกายจะปรับตัวเข้ากับยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันนานหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน
พบน้อยมาก (โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกของการใช้)
สิวเห่อ
ค. อาการข้างเคียงอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยบางราย หากท่านสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
กลุ่มยา
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่มยาต่อไปนี้
Antiacne 
ยานี้เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้
ชื่อทางการค้า
ยานี้มีชื่อทางการค้าต่อไปนี้
ข้อมูลนี้ไม่สมบูรณ์ ยานี้อาจจะยังมีชื่อทางการค้าอื่นที่ไม่ได้แสดงในนี้ หรือชื่อทางการค้าที่แสดงในนี้อาจจะไม่อนุญาตให้จำหน่ายแล้ว
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=756&sub_id=52&ref_main_id=3

อัพเดทล่าสุด