ยารักษาสิว "Roaccutane , Acnotin"


1,115 ผู้ชม


Roaccutane, Acnotin เป็นชื่อทางการค้าของกรดวิตามินเอ ( isotretinoin ) ใช้รักษาสิวที่เป็นมากและรุนแรง ดื้อต่อการรักษาด้วยยาชนิดอื่นแล้ว ผลดี คือ สิวหายได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ และสงบได้เป็นระยะเวลาค่อนข้างยาว เป็นเดือน หรือเป็นปี แล้วแต่ แต่ละบุคคล ผลเสีย คือ ผลข้างเคียงจากยา ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป         Roaccutane, Acnotin เป็นชื่อทางการค้าของกรดวิตามินเอ ( isotretinoin ) ใช้รักษาสิวที่เป็นมากและรุนแรง ดื้อต่อการรักษาด้วยยาชนิดอื่นแล้ว ผลดี คือ สิวหายได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ และสงบได้เป็นระยะเวลาค่อนข้างยาว เป็นเดือน หรือเป็นปี แล้วแต่ แต่ละบุคคล ผลเสีย คือ ผลข้างเคียงจากยา ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป 

กลไกการออกฤทธิ์ของยา ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เกี่ยวกับการลดการทำงานของต่อมไขมัน ขนาดของต่อมไขมันเล็กลง และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบของผิวหนัง เชื้อ P.acne ลดลง อาจเนื่องจากไขมันที่เป็นอาหารลดน้อยลง
*ควรกินพร้อมอาหาร จะทำให้ร่างกายนำยาไปใช้ได้เป็นสองเท่าของตอนท้องว่าง

สิ่งที่ควรตรวจก่อนกินยา

ตรวจเลือด ดูการทำงานของตับ และระดับไตรกลีเซอไรด์ เมื่อกินยาไป 3-4 อาทิตย์ หรือ 6-8 อาทิตย์ เจาะเลือดดูไตรกลีเซอไรด์อีกครั้ง ถ้า > 500 mg/dL ต้องคอยตรวจเป็นระยะๆ >700mg/dL ต้องหยุดยา และให้ยาลดไขมันเพราะ อาจมีอาการตับอ่อนอักเสบ และก้อนไขมันตามผิวหนัง
** สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด **

  • ห้ามกิน ขณะมีครรภ์ โดยเฉพาะ ช่วงท้องได้ 3 อาทิตย์ เด็กจะพิการ
  • คุมกำเนิดก่อนกินยา 1 เดือน หลังหยุดยา ให้คุมกำเนิดต่ออีก 1 เดือน
  • ทดสอบการตั้งครรภ์ว่า ให้ผลลบ ก่อนกินยา 2 อาทิตย์
  • สำหรับผู้ชายที่กินยาตัวนี้ แล้วมีลูก จะไม่มีผลอะไรกับลูก
  • ยาผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ควรกินในรายที่ให้นมลูก

ผลข้างเคียงของยา ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ จะสัมพันธ์กับขนาดยาที่ให้

  • ปากแห้ง พบเกือบทุกราย
  • เยื่อบุตามช่องทวารต่างๆ แห้ง
  • ผิวแห้ง ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ จมูกแห้งจนเลือดกำเดาออก เยื่อเมือกหลอดคอแห้ง ทำให้เสียงแหบ และมีอาการคัน
  • ผมร่วง ผมน้อยลง สิวเห่อ ขนดก
  • ผิวหน้าร้อนแดง ผิวหนังอักเสบ ผิวคล้ำขึ้นและไวต่อแสง มีตุ่มคัน ตุ่มหนอง เนื้อรอบเล็บเป็นหนอง เล็บผิดรูปร่าง เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดตุ่ม
  • ปวดกล้าม ปวดข้อ การสร้างกระดูกมากขึ้น เอ็นอักเสบ มีการจับของแคลเซี่ยมที่เส้นเอ็น มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆของกระดูก
  • พฤติกรรมผิดปกติ เครียด มีอาการทางจิตเวช พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายในผู้ป่วยบางราย ปวดศีรษะ ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้น ชัก ผู้ป่วยจิตเวชควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนรับประทานยา
  • เห็นภาพเปลี่ยนไป กลัวแสง ลดการมองเห็นตอนกลางคืน ต้อกระจก กระจกตาอักเสบ การฟังบกพร่องในบางช่วงคลื่น
  • คลื่นไส้ ลำไส้อักเสบ มีเลือดออก ตับอ่อนอักเสบ ในรายไตรกลีเซอไรด์สูง ถ้ารุนแรงอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้ ตับอักเสบในบางราย
  • หลอดลมหดเกร็ง ในรายที่เป็นโรคหอบมาก่อน
  • มีการติดเชื้อกรัมบวก
  • เลือดมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวลดลง เกร็ดเลือดเพิ่มขึ้น อัตราการตกตะกอนของเลือดเพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูงขึ้น แต่ไขมันตัวที่ดีกับร่างกายลดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น ปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น มีเลือดและมีโปรตีนมากผิดปกติ
  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรใช้ยาทาลอกผิว หรือลอกสิวร่วมด้วย ใช้ยาทาสิวชนิดอ่อนร่วมด้วยได้
  • ไม่ควรให้ร่วมกับยาวิตามินเอ และ ยาเตตร้าไซคลิน

จะเห็นได้ว่า ผลข้างเคียงของยามีค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยาค่ะ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=114&sub_id=52&ref_main_id=3

อัพเดทล่าสุด