บทบาทของยาเม็ด Finasteride กับการปลูกผมที่ได้ผลที่สุดในปัจจุบัน


908 ผู้ชม


  • ปัญหาศรีษะล้าน มีสาเหตุการเกิดได้หลายอย่าง แต่สาเหตุใหญ่ๆที่พบในปัจจุบัน และพอมีแนวทางแก้ไขได�
�� นั่นคือปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านจากปัญหาฮอร์โมนเพศ ชื่อ Dihydrotesterone(DHT) ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงยารับประทานที่ได้มีการพิสูจน์ โดยสถาบันอาหารและยา(FDA) ของ สหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ และแพทย์ผิวหนังทั่วไป แล้วว่าสามารถทำให้ผมขึ้นได้จริง ในคนที่ผมร่วง ศีรษะล้านจากปัญหาฮอร์โมนเพศชายดังกล่าว
  • ฮอร์โมนเพศชาย ชื่อ Dihydrotestosterone(DHT) มีกลไกที่จะเป็นสาเหตุของผมร่วงโดย จะทำให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง ผมจึงร่วงได้มากและเร็วกว่าปกติ ทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง และสั้นลง ทำให้ผมค่อยๆบางลง จนดูโล่งเตียน นอกจากนี้ยังทำให้ ปริมาณผมใหม่ งอกได้ไม่เป็นปกติ ทั้งจำนวนและลักษณะเส้นผมตาม รูปภาพที่ 1 (ภาพประกอบด้านล่าง)
  • ยา Finasteride เป็นสารสังเคราะห์ประเภท 4-Azasteroid androgen ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์ 5-Alpha reductase ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชาย testosterone เป็น DHT จึงทำให้ระดับ DHT ลดลงในกระแสโลหิต ทำให้ยับยั้งอัตราการทำลายเส้นผม ผมจึงหยุดร่วง และดกดำได้ดังเดิม ( ดูภาพประกอบ ในรูปที่ 2)
  • ยา Finasteride มีเฉพาะในรูปยาเม็ด ขนาดรับประทาน วันละ 1 มก.ต่อวัน โดยต้องมีระยะการรับประทานต่อเนื่อง และจะเริ่มเห็นผลใน 3 เดือน ในต่างประเทศ แนะนำให้รับประทานยาต่อเนื่อง เป็นเวลา 2 ปี ผมจะกลับมาปกติ โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา จากเส้นผม 1 เส้น มีวงจรชีวิต ตั้งแต่งอกจนหลุดร่วงออก ประมาณ 2-6 ปี
  • จากการวิจัย ที่ต่างประเทศ พบว่า การรับประทานยา ต่อเนื่อง นานกว่า 1 ปี พบผลข้างเคียง ด้านสมรรถภาพทางเพศลดลง 1.8 % เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทาน ซึ่งเกิดได้ ประมาณ 1.3 % ดังนั้นจึงถือว่ามีผลข้างเคียงน้อยมาก
  • ข้อห้ามใช้ ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ หรือเตรียมตั้งครรภ์ เพราะยานี้จะทำให้เกิดความผิดปกติ หรือพัฒนาการของอวัยวะเพศของทารกได้
  • ดังนั้นจะเห็นว่า การรักษาผมร่วง โดยการใช้ยารับประทาน ควบคู่กับการใช้ ยาทา จำพวก Minoxisdil จึงเป็นทางเลือกใหม่ของคนไข้ ในยุค Millenium โดยไม่ต้องไปทอผม หรือ ใส่วิก หรือผ่าตัดย้ายรากผม
    เรียบเรียงโดยนพ.จรัสพล รินทระ ..................26/4/47

ที่มา : https://www.clinicneo.co.th/detailcolumn.php?grp=7&sdata=&col_id=14

อัพเดทล่าสุด