โรคลําไส้อักเสบของลูกสุนัขมีโอกาสหายไหม


3,581 ผู้ชม


โรคลําไส้อักเสบของลูกสุนัขมีโอกาสหายไหม โรคลําไส้อักเสบของสุนัข ลูกสุนัขเป็นโรคลําไส้อักเสบ

โรคลําไส้อักเสบของลูกสุนัขมีโอกาสหายไหม 

ลูกหมาอายุ 6 สัปดาห์ป่วยเป็นลำไส้อักเสบโอกาสหายมีไหมคะ
(Reader : 875)
ลูกหมาอายุ 6 สัปดาห์ป่วยเป็นลำไส้อักเสบ อาการแบบนี้มีโอกาสหายไหมคะ
ตัวแรกหมอฉีดยาฆ่าเชื้อ ให้เป็นยาน้ำฆ่าเชื้อมีสีเหลืองใส และสีเหลืองขุ่น พร้อมทั้งให้ป้อนวิตามินรวม และเกลือแร่(ป่วยมา 6 วัน วันนี้เขาเริ่มกินข้าวและทานน้ำ และไม่อาเจียนแล้ว)
แต่ตอนนี้ตัวอื่นเริ่มออกอาการแล้ว ครั้งแรกเขาซึมๆไม่ทานอาหาร ถ่ายเหลวเลยพาไปหาหมอ(หมอไม่ได้ฉีดยาฆ่าเชื้อให้) หมอให้กินยาฆ่าเชื้อเป็นยาเม็ดสีเหลือง ให้กินวิตามินรวม และเกลือแร่ ผ่านมา 2 วันอาเจียนเยอะมาก ทานน้ำเกลือแร่ยังอาเจียนเลย ถ่ายเหลวประมาณ วันละ 2-3 ครั้ง สีเหลืองและเหลืองอ่อนๆไม่มีเลือดปน
วันนี้เลยเอาตัวที่อาเจียนเยอะๆไปหาหมอ หมอเลยให้งดอาหาร และให้ป้อนวิตามินรวม เกลือแร่ น้ำตาล และงดยาที่ให้(เป็นยาเม็ด) หมอจะให้ฉีดยาฆ่าเชื้อและรักษาลำไส้ ให้พามาฉีดตลอด 3 วัน วันนี้เพิ่งฉีดวันแรก
สงสารมันมากเลยค่ะ เห็นมันอาเจียนตลอดเลยพยายามป้อนวิตามินรวม กับเกลือแร่ผสมน้ำผึ้งให้ทีละแค่ 1 CC ยังอ้วกเลยค่ะ
ปล.ให้ยาน้ำสีขาวขุ่นที่เคลือบลำไส้ รักษาลำไส้อักเสบคนให้ลูกหมาได้ไหมคะ
Posted by : วรรณี วัน/เวลา : 18/3/2555 21:50:43
เพิ่มเติมค่ะ หมอเลยให้พาหมาตัวแรกที่เริ่มดีขึ้นไปฉีดยาฆ่าเชื้อและรักษาลำไส้ด้วย จะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ
Posted by :วรรณี
วัน/เวลา :18/3/2555 21:53:27
 
กรณีหมาอายุน้อยการเกิดลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อมักจะเป็นจากไวรัส การให้ยาฆ่าเชื้อให้ไปเพื่อฆ่าแบคทีเรียไม่ใช่ไวรัส
การรักษาที่สำคัญคือการพยุง ประคองให้น้ำเกลือ และสารอาหารผ่านหลอดเลือด เพราะเชื้อไม่ได้ทำให้สัตว์ตาย แต่สัตว์จะตายจากการสูญเสียน้ำ และอิเล็กโตรไลท์อย่างรุนแรงจากการอาเจียน และถ่ายเหลวครับ
ให้สารน้ำและพยุงอาการไปเรื่อยๆถ้าร่างกายแข็งแรง จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้เองครับ

โรคลําไส้อักเสบของสุนัข

โรคลำไส้อักเสบ ในสุนัข

line dogline dogline dogline dog

"โรคลำไส้อักเสบ"
โดย สัตวแพทย์ อิทธิเดช วิเชียรรัตน์
สวัสดีครับ ท่านเจ้าของสัตว์ทุกท่าน อยากนำเสนอเรื่อง
โรคติดต่อในสุนัข ที่เจอบ่อย
ความจริงทางโรงพยาบาลสัตว์ เคยนำเสนอเรื่องดังกล่าวมาแล้ว
แต่ยังมีลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าบางท่าน ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่
และมีลูกค้าหลายท่านเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่
ต่อไปนี้หวังว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยง คงได้ความรู้เพิ่มขึ้น
โรคติดต่อในสุนัขที่เจอบ่อย ที่ รพ.สัตว์นครศรีธรรมราช
อาจรวมถึงที่อื่นๆในประเทศไทยและต่างประเทศ
1.โรคลำไส้อักเสบติดต่อ จากเชื้อไวรัส (canine viral enteritis หรือ cve )
เป็นโรคติดต่อที่ทำให้สุนัขเสียชีวิตมากที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะสัตว์ที่ไม่ได้รับวัคซีน แล้วมีการติดเชื้อเป็น
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสพาโวไวรัส (รุนแรง) โคโลน่าไวรัส
(ไม่รุนแรง) โรทาไวรัสหรืออาจติดเชื้อร่วมกัน
ซึ่งจะทำให้อาการของโรครุนแรงยิ่งขึ้น (ติดเชื้อพาโวไวรัส ร่วมกับโคโรน่าไวรัส)
การติดต่อ เกิดจากการ กินหรือเลียสิ่งคัดหลั่ง และสิ่งขับถ่ายจากสุนัข
ตัวที่เป็นโรค ได้แก่ อุจจาระ (มากที่สุด) , ปัสสาวะ , น้ำลาย
อาการ สุนัขจะไม่แสดงทันทีหลังติดเชื้อ ใช้เวลาฟักตัวนาน 37
วัน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อเพิ่มปริมาณ ในร่างกายสัตว์ เมื่อสัตว์แสดงอาการ
อาการวันแรกที่แสดงออกคือซึม ไม่กินอาหาร อาเจียน เป็นอยู่ประมาณ 2 วัน
วันที่ 3จะเริ่มถ่ายออกมาเป็นเลือด ไข้สูง (หรือไข้ขึ้น ตั้งแต่วันแรกแล้ว)
อาการ ซึม ไม่กินอาหาร อาเจียน ยังมีอยู่ ตำแหน่งที่เชื้อไปอยู่ที่
ร่างกายสัตว์ที่สำคัญ คือ ที่ เยื่อบุส่วนที่ทำหน้าที่ ดูดซึมอาหาร หรือ
ที่เรียกว่า วิลไล (villi) ได้แก่เชื้อโคโรน่าไวรัส
และโรทาไวรัส ส่วนเชื้อพาโวไวรัสจะอาสัยอยู่ที่ฐานของวิลไล
หรือที่เรียกว่า คริปท์ (crypt of liverkhun)
เฉพาะบางครั้งเวลาสุนัขเป็นโรคนี้ จะถ่ายออกมาเป็นมูก
หรือเป็นมูกแบบมีเลือด ปนเล็กน้อย อาการจะเป็นไม่รุนแรงยังร่าเริง
แสดงว่าสุนัขติดเชื้อ โรทา หรือโคโรนาไวรัส (หรือเชื้อชนิดไม่รุนแรงอื่นๆ เช่นเชื้อแบคทีเรียบางชนิด หรือโปรโตซัว ) ส่วนกรณีย์ติดเชื้อพาโวไรรัส ร่วมด้วยจะพบว่ามีอาการสุนัขถ่ายเป็นเลือดสดๆ
และจะเป็นการติดเชื้ออย่างรุนแรง สัตว์ที่ไม่เคยทำวัคซีนมาก่อน
มักจะเสียชีวิต โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความไวต่อโรคนี้ ได้แก่ ดัลเมเชียล
ร๊อตไวเลอร์ พุดเดิ้ล ลาบราดอร์ อัลเซเชียน เป็นต้น ส่วนสุนัขไทย
มีความต้านทานต่อโรคนี้สูงกว่า
การักษา ไม่มียารักษา สำหรับฆ่าเชื้อไวรัสทั้ง 3 ชนิด ที่กล่าวมาได้เลย
ไม่ว่าที่ไหนก็ต้องรักษาตามอาการเหมือนกัน ได้แก่ให้สารน้ำคือน้ำเกลือ
ยาบำรุง ยาแก้อาเจียน ยาเคลือยบลำไส้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
สัตว์ตัวที่แข็งแรงมักตอบสนองต่อการรักษาดี ตัวที่หายมักใช้เวลา
เฉลี่ย 7 วัน ส่วนตัวที่ไวต่อโรคมักเสียชีวิตภายใน 3 วัน
หลังจากถ่ายเป็นเลือด การรักษาที่ดีที่สุดคือ
การให้น้ำเกลือเข้าทางเส้นเลือดดำ ร่วมด้วยการให้ยาฉีด
ซึ่งบางชนิดอาจฉีดวันละ 3- 4 ครั้งเช่นยาแก้อาเจียน ยาเคลือบลำไส้
เพราะฉะนั้น สุนัขที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้จะมีโอกาสหายสูงกว่า
สุนัขที่ได้รับน้ำเกลือทางเข้าผิวหนัง หรือไม่ได้รับน้ำเกลือเลย
โรคนี้มักเป็นในสุนัข 2 เดือน- 1 ปี
โดยเฉพาะสุนัขที่ไม่ได้ทำวัคซีนลำไส้อักเสบติดต่อมาเลย
เนื่องจากสุนัขอายุน้อยไวต่อโรคมากกว่าสุนัข โต หรืออายุมาก
แต่สุนัขโตก็มี
โอกาสเป็นได้ ส่วนสุนัขที่อายุน้อยกว่า 1 เดือน
มีภูมิจากน้ำนมแม่อยู่จะทำให้ไม่เกิดโรค
และโอกาสได้รับเชื้อน้อยกว่าเนื่องจากอยู่กับแม่
การป้องกัน
โดยการทำวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อ จากเชื้อพาโวไวรัส
วัคซีนบางยี่ห้อ มีป้องกันโคโรน่าไวรัสด้วย
แต่อย่างน้อยต้องป้องกันเชื้อพาโวไวรัสได้
เนื่องจากเชื้อโคโรน่าไวรัสเป็นแล้วรักษาหาย แต่ถ้าติดเชื้อพาโวไวรัส
เปอร์เซนต์การตายสูงมาก โดยเฉพาะสัตว์สายพันธุ์ที่ไวต่อโรค
และสัตว์ที่อ่อนแอ หรือสัตว์ที่เป็นพยาธิร่วมด้วย เช่นพยาธิปากขอ
หรือพยาธิไส้เดือน การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ เริ่มฉีดตั้งแต่สุนัขอายุได้
45 วัน แต่ถ้าสุนัขอายุ 2 เดือนขึ้นไปแล้วมักฉีดใน รูปของวัคซีนรวม
ที่ประกอบด้วย โรคลำไส้อักเสบ ไข้หัดสุนัข ตับอักเสบและโรคเลปโตสไปโรซีส
(ฉี่หนู) อยู่ในเข็มเดียวกัน อยู่ในเข็มเดียวกัน แต่การฉีดนั้นต้องฉีด 2
ครั้ง ห่างกัน 1เดือน
เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันสูงเพียวพอที่จะป้องกันโรค
และหลังจากนั้นฉีดปีละครั้ง
นอกจากการทำวัคซีนแล้วการฆ่า เชื้อบริเวณคอก หรือกรงสัตว์เลี้ยง
ช่วยควบคุมการแพร่โรคได้ แต่ต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของสาร
โซเดียม ไฮโปคลอไรท์
ซึ่งสารดังกล่าวมีอยู่ในน้ำยาซักผ้าขาว ไฮเตอร์
นั้นเอง อาจเทใส่ ฟอกกี้ แล้วฉีดพ่นกรง
แล้วนำกรงไปตากแดดหรือใช้ราดบริเวณคอกได้ ส่วนยาฆ่าเชื้ออื่นๆเช่น
เดทตอล หรือ แอลกอฮอล์
ไม่สามารถฆ่าเชื้อพาโวไวรัสได้
สุนัขตัวที่เป็นโรคเมื่อถ่ายอุจจาระออกมาแล้ว เชื้ออยู่ได้นาน 5- 6 เดือน
ในสิ่งแวดล้อมโดยที่เชื้อไม่ตาย
เพราะนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมโรคนี้ถึงพบได้บ่อย พบได้ตลอดปี
แต่ช่วงฤดูฝนพบบ่อยที่สุด เนื่องจากเชื้อกระจายได้ง่าย
สาเหตุที่ทำให้โรคนี้ติดต่อและระบาดได้ ทั่วไปคือ
สุนัขจนจัด และ สัตว์อายุมาก ที่เป็นแหล่งอมโรค
คือมีเชื้อในร่างกาย แต่ไม่แสดงอาการของโรค
เนื่องจากทนต่อโรคมากกว่าลูกสุนัข
บางครั้งพบว่าการที่สุนัขบางตัวชอบเลียรองเท้า ก็สามารถเกิดโรคได้
ทั้งที่ไม่เคยออกนอกบ้านเลย เนื่องจากเจ้าของเดินไปเหยียบย่ำที่ต่างๆ
อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่
อ้างอิง https://www.thaivet.org

ลูกสุนัขเป็นโรคลําไส้อักเสบ

ให้กับลูกสุนัขที่ฉีดวัคซีนไม่ถูกต้องและส่งผลให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ ติดต่อทีมงาน

เราขอเล่าประสบการณ์ของเราที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้
เมื่อไม่ถึงเดือนมานี้ เราได้ไปเดินเล่นที่สวนจตุจักรและได้ไปเจอลูกสุนัขตัวนึง รู้สึกถูกชะตามาก
เป็นพันธุ์ ชิวาวา ตัวเล็กที่สุดในคอกนั้น  ตรงที่เราซื้อจะเป็นมานั่งโต๊ะขาย
เราเห็นน้องเค้าน่ารัก และขี้เล่น เราก็อยากได้มาก จนลืมว่าที่นี้คือแหล่งรวมเชื้อโรคนะ
ก็เลยตกลงซื้อเลย เค้าก็ให้ใบวัคซีนมา บอกว่าสองเดือน ฉีดวัคซีนแล้ว
เราก็มัวแต่เห่อน้องเค้า  ไม่ได้อ่านวัคซีนหรือดูอะไรเลย
หน้าน้องเค้าอ่อนมากแต่เราเห็นว่าฟันขึ้นครบแล้วจึงไม่เอะใจ
วันแรกเอากลับมาร่าเริงดี กินเยอะ ถ่ายดีไม่เหลว ตั้งชื่อให้ว่า "อาชิ"
พอตกกลางคืนเราก็มาหาข้อมูลในการเลี้ยงน้องในเน็ตและก็เจอว่าสุนัขที่ซื้อจากจตุจักรเป็นโรคเยอะมาก
เราก็เริ่มกังวล ไปอ่านในใบวัคซีนที่ให้มาไม่มีชื่อแพทย์ ไม่มีชื่อโรงพยาบาลที่ฉีด
เราก็ยิ่งกังวลว่าเค้าฉีดจริงหรือให้ใครฉีดเนี่ยมั่วจริงๆ  กะว่าเดี๋ยวจะรีบพาไปตรวจร่างกายในวันรุ่งขึ้น
พอเช้าอาชิร้อง เรารีบไปดู ถ่ายเต็มที่นอนเลย เหลวและมีกลิ่นคาวด้วย
เราเลยเอาซีซาร์มาให้กินเค้าก็ไม่กินเลย ป้อนไรให้ก็ไม่กิน และไอเหมือนมีอะไรติดคอ
เลยรีบพาไปให้คลินิคใกล้บ้านดู นั่งรอจนคลินิคเปิด อาชิก็หลับบนตักตลอด
พอคลินิคเปิดเราก็เล่าอาการให้เค้าฟัง เค้าบอกไม่ถึงสองเดือนฟันกรามยังไม่ขึ้น น่าจะเดือนครึ่ง
เราเริ่มเครียดหนักอีก เราเลยบอกหมอให้ตรวจโรคลำไส้เลย
เพราะโรคนี้ระบาดมากในหมู่ลูกสุนัข เราก็ลุ้นตัวโก่งเลย ผลออกมาเป็นลำไส้อักเสบชนิดโคโรนา ขีดขึ้นจางมาก แทบมองไม่เห็น
เป็นโรคลำไส้ที่มีความรุนแรงมาเป็นอันดับสองรองจากพาโวไวรัส และเป็นบิดอีก
หมอบอกว่าขึ้นอยู่กับน้องเค้าว่ามีภูมิต้านทานแค่ไหน ให้รักษาตามอาการ50/50
แต่ดูจากการพูดของหมอเหมือนจะบอกเราเป็นนัยๆว่าน้องเค้าเล็ก หนัก 0.5 เอง ไม่น่ารอด
เราอยากจะร้องอ่ะ ยิ่งเห็นเค้าอยู่ในมือ เลียมือเรา เราก็ยิ่งห่อเหี่ยวสิ้นหวัง
หมอก็ป้อนยาให้ก่อนกลับเสียค่ายาและค่าตรวจเป็นพัน
พอกลับมาอาชิอ้วกเยอะมาก อาหารที่เพิ่งกินเมื่อวานออกมาหมดเลย
เราเริ่มใจเสียใหญ่โทรหาหมอ หมอบอกรอดูอีกคืนถ้าไม่ดีพรุ่งนี้มาแอดมินให้น้ำเกลือ
หมอบอกไม่แน่ใจว่าจะหาเส้นเลือดเจอหรือเปล่าเพราะตัวเค้าเล็กมาก
เครียดสุดๆ คิดอยู่ว่าถ้าป้อนยาอีกต้องอ้วกอีกแน่และไม่กินไรด้วย
เลยมาเสิชข้อมูลในเน็ต เจอชื่อหมอคนนึงที่ช่วยสุนัขที่เป็นโรคนี้มานักต่อนัก
เลยรีบโทรหาเลย หมอก็ถามชื่อวัคซีน ถามพันธ์ และบอกเราว่าวัคซีนตัวนี้ไม่ดีทำให้เกิดเชื้อ
แล้วหมอก็อธิบายเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนและบอกว่าเดี๋ยวนี้พวกร้านชอบหาวัคซีนถูกๆมาฉีดทำให้ลูกสุนัขป่วย
หมอชูศักดิ์บอกให้เราป้อนโยเกิร์ตทุกครึ่ง ช.ม และโทรมาหาเค้าใหม่ในวันรุ่งคืน
ยาที่หมอใกล้บ้านให้มาก็ให้หยุดทาน ให้งดข้าว งดน้ำ กินแต่โยเกิร์ต
ตอนแรกเราก็ลังเลว่าให้กินโยเกิร์ตจะช่วยได้จริงหรอหรือจะให้กินยาเดิม แต่ถ้ากินยาเดิมก็อ้วกออกมาแน่
ก็เลยตัดสินใจป้อนโยเกิร์ตทุกครึ่ง ชม เพราะเป็นสิ่งเดียวที่กินและไม่อ้วก
ป้อนแบบนี้อยู่ 3-4 วัน ก็เริ่มสลับกับ อาหารA/D สำหรับสัตว์ป่วย เค้าก็เริ่มแข็งแรง ทานได้เยอะขึ้น
แต่ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์เค้าเริ่มมีน้ำมูก จาม หายใจติดขัด เราก็เลยโทรไปปรึกษาหมออีกครั้ง
หมอบอกว่าอาชิเป็นปอดบวม ให้ซื้อ Zithromax ตามร้านขายยามาทาน เราก็ซื้อมาให้ทาน อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
นี่น้องอายุแค่สองเดือนเองนะแต่ผ่านมาตั้งกี่โรคแล้วเนี่ย แต่อาชิก็ผ่านมาได้เพราะกำลังใจดี เราแทบไม่ทิ้งหรือห่างเค้าเลยอ่ะ
เรา ก็ยังโทรไปรายงานอาการหมอชูศักดิ์เรื่อยๆ พอครบ 20 วัน แข็งแรงดีแล้ว หมอก็ให้ฉีดวัคซีน  Vanguard HTLP/5 CV-L ของไฟเซอร์ (ฉลากฟ้าเขียว)  
ให้ฉีดแค่ครึ่งโดส และอีกครึ่งค่อยฉีดหลังจากถัดไปอีก 20 วัน เพราะน้องเค้ายังเล็กอยู่
เราก็โทรสอบถามหาตัววัคซีนที่ต้องการตามโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน
พอเจอ เราก็พาไปฉีด หมอทำฟาร์มชิวาวาด้วย เราก็มั่นใจ จนลืมย้ำหมอไปว่าฉีดแค่ครึ่งโดสนะ
หมอก็เลยฉีดเต็มโดสเลย เราก็กังวลมาก เลยโทรหาหมอชูศักดิ์ หมอบ่นเป็นชุดเลย บอกฉีดเต็มโดสจะมีโอกาสเสี่ยงเยอะ
ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงก็ทรุดเอาง่ายๆ วันแรกที่ฉีดมาอาชิปวดมาก ขยับตัวเป็นร้อง หลังก็บวม เราก็ยิ่งกลัวๆอยู่
แต่นี่ก็ฉีดมาได้ 4 วันแระ ก็ยังแข็งแรงดีอยู่ เราก็ภาวนาให้อาชิอย่าทรุดเด็ดขาด
เราไม่เคยเสียใจเลยนะที่ได้ซื้อาชิมาเพราะเราคิดเสมอว่าถ้าอาชิยังอยู่ที่ร้านหรือคนอื่นซื้อไปอาจไม่รู้วิธีการรักษาและทำให้ตายได้
หมอชูศักดิ์จะย้ำเสมอว่า การฉีดวัคซีนให้ ถูกยี่ห้อ ถูกเวลา ถูกปริมาณ ถูกระยะห่าง แค่นี้ก็จะไม่มีสุนัขป่วยอีก
เรา ขอขอบคุณหมอชูศักดิ์มากๆ ทำให้เราได้รู้ว่าโยเกิร์ตนี่แร่ะ ยาชั้นดี ที่เป็นภูมิคุ้มกันอย่างดี ไม่งั้นอาชิคงไม่ได้อยู่เหมือนทุกวันนี้
ตอนนี้อาชิชอบโยเกิร์ตมากเห็นเป็นรีบขอกินใหญ่ แต่อาชิยังเพิ่งเริ่มเป็นโรคนะ เราแนะนำว่าให้เค้าทานตั้งแต่ไม่ป่วยจะดีกะเค้ามาก
ลองเข้าไปอ่านเว็บคุณหมอชูศักดิ์มีเคสเยอะแยะเลยสำหรับตัวไหนที่เป็นโรคลำไส้อักเสบรุนแรงแล้วส่งไปรักษา ก็หายมาเยอะ
ตอนนี้เราได้แต่ลุ้นและหวังว่าอาชิลูกของแม่จงแข็งแรงแบบนี้ตลอดไป
และหวังว่าคงจะไม่มีสุนัขหรือสัตว์อื่นๆต้องมาป่วยและเสียชีวิตเพราะการฉีดวัคซีนที่ผิดๆอีก
https://www.udclick.com/home1/index.php?option=com_content&task=view&id=89300&Itemid=134021 นี่คือบทความอ่านไว้มีประโยชน์มากๆ
https://www.udclick.com/home1/index.php?option=com_content&task=blogcategory&id=13402&Itemid=134021&limit=10&limitstart=0 และนี่คือเหล่าน้องหมาที่หายด้วยมือคุณหมอชูศักดิ์ค่ะ
นี่ค่ะ โฉมหน้าน้องอาชิ หน้าละอ่อนเชียว

Link   
https://www.thaivet.org
https://disease.108dog.com/
https://topicstock.pantip.com

อัพเดทล่าสุด