การเจ็บหัวนม กินยาคุมฉุกเฉินแล้วเจ็บหัวนม ปจดเลื่อน ตกขาว ปวดท้องน้อย เจ็บหัวนม


6,239 ผู้ชม


การเจ็บหัวนม กินยาคุมฉุกเฉินแล้วเจ็บหัวนม ปจดเลื่อน ตกขาว ปวดท้องน้อย เจ็บหัวนม

 

สัญญาณร่างกาย...แบบไหนที่ควรห่วง


สัญญาณร่างกาย...แบบไหนที่ควรห่วง (Lisa)
          เจ็บคัดเต้านม ปวดเข่า เจ็บเสียดหน้าอก ตามัว ฯลฯ อาจไม่ใช่สัญญาณของโรคร้ายอย่างที่คุณนึกกลัวก็ได้
          แม่ของดาราสาว นิโคล คิดแมน เสียชีวิตด้วยมะเร็งเต้านม นิโคล คิดแมนจึงไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอหมั่นเช็กมะเร็งเต้านมเป็นประจำ แต่นิโคลคิดแมนก็เป็นมะเร็งผิวหนังโดยไม่คาดคิด จึงเป็นข้อเตือนใจว่า โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น เมื่อมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ควรหมั่นสังเกตตัวเอง แต่ทุกอาการก็ใช่จะบอกโรคร้ายเสมอไปต่อไปนี้คืออาการทางร่างกายที่พบกันบ่อยๆ และสิ่งที่อาจเป็นไปได้ต่อสุขภาพของคุณ
           คัดเต้านม
          เมื่อรู้สึกเจ็บ คัดเต้านม ความคิดในแง่ลบก็คือ มะเร็งเต้านม อาการเจ็บเต้านม เริ่มแรกไม่ใช่ลักษณะของมะเร็งเต้านมมะเร็งจะมีลักษณะอื่นที่สังเกตได้คือ มีของเหลวปนเลือดออกมาจาก หัวนม ผิวบุ๋ม แข็งและเป็นก้อน ดังนั้นจึงควรหมั่นคลำเต้านมตนเองทุกเดือนหลังหมดประจำเดือน สิ่งที่เป็นไปได้ อาจเป็นเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนมีรอบเดือนหรือก่อนการตั้งครรภ์ หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงวัยทอง ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการบ่อย
           เจ็บเสียดหน้าอก
          ตื่นเช้าขึ้นมาคุณรู้สึกเจ็บเสียดหน้าอก ความคิดในแง่ลบก็คือ เป็นโรคหัวใจหรือเปล่า หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับ หรือถูกบีบรัดหัวใจนานกว่า 10 นาที ก็เป็นสัญญาณของโรคหัวใจ ส่วนสัญญาณบอกอาการในผู้หญิงคือ คลื่นเหียน เจ็บท้องด้านบน อาเจียน หายใจลำบาก และเหนื่อยเพลีย สิ่งที่เป็นไปได้ อาจเป็นเพียงแค่อาการตึงกล้ามเนื้อก็ได้ และคุณจะสังเกตได้เองว่า ความเจ็บจะหายไปเมื่อคุณขยับเคลื่อนไหวในบางท่า หากหายใจเข้าแล้วรู้สึกเจ็บก็อาจเกิดจากการอักเสบของปอด หรือหากจุกแน่นหน้าอกเป็นเวลาสั้นๆ ก็อาจเกิดจากความดันโลหิตสูง
           ตามัว
          ขณะที่คุณกำลังอ่านหนังสือหรือขับรถแล้วจู่ ๆ ก็ตาพร่า ความคิดในแง่ลบคือตาบอดหรือเปล่านี่ คนส่วนมากมักกลัวโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งจะทำให้เซลล์การมองเห็นของเยื่อภายในลูกตาสำหรับรับภาพตา อาการเริ่มแรกของจอประสาทตาเสื่อมคือ มองภาพไม่คมชัดเห็นเหมือนมีอะไรบังตรงกลาง หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวไป ทำให้ความสามารถในการเห็นภาพที่ระยะใกล้และไกลเสียไปจนมีปัญหากับการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ หรือสนด้ายเข้าเข็มยาก ส่วนมากมักเป็นกับผู้สูงวัยสิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากวุ้นในลูกตาเสื่อมก็ได้ คือจะมีอาการเห็นเป็นคราบดำๆ หรือคราบติดกระจก ถ้าอาการมากกว่านั้นคือ ประสาทตาฉีกขาดจะทำให้มองเห็นแสงแฟลชในที่มืดไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ส่วนมากมักเกิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องใช้สายตามากๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรลอยแต่ ปัจจุบันมักเกิดจากการเล่นเน็ต หรือเล่นคอมฯ เพื่อความแน่ใจควรไปพบจักษุแพทย์และป้องกันอาการอักเสบ
           ปวดศีรษะอย่างแรง
          เมื่อมีความเครียดหนัก ตามมาด้วยอาการปวดศีรษะ ความคิดในแง่ร้ายก็คือเป็นมะเร็งที่สมอง หากมีอาการปวดศีรษะเป็นประจำพร้อมกับมีการอาเจียน วิงเวียนศีรษะ และมีปัญหากับการมองเห็น การฟังหรือการพูด คนส่วนใหญ่ที่มีอาการเช่นนี้มักอยู่ในวัยระหว่าง 65-85 ปี และมักเป็นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงสิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากความเครียดก็ได้ ส่วนมากอาการปวดศีรษะมักพ่วงมากับอาการตึงต้นคอ หากใช้หมอนอุ่นๆ ประคบต้นคอก็จะช่วยลดความตึงได้หรืออาการไซนัสอักเสบก็เป็นสาเหตุได้ จึงควรไปพบแพทย์ แต่ถ้าเป็นไมเกรนจะไวกับแสงและมีอาการคลื่นเหียน

           ปวดท้องมาก
          เอร็ดอร่อยกับอาหารเย็น แต่ต้องปวดท้องจนแทบทนไม่ไหว ความคิดในแง่ลบก็คือ ไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งจะมีอาการเริ่มแรกคือปวดบริเวณสะดือและท้องด้านบน และไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ย้ายมาปวดที่หน้าท้องด้านขวา สิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากการย่อยอาหาร ท้องอืดเฟ้อ ท้องผูก หรือท้องเสีย หากปวดไม่เลิกควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นแผลในกระเพาะ นิ่วในถุงน้ำดี ก้อนนิ่วในไต หรือซีสต์ในรังไข่
           ต่อมน้ำเหลืองโต
          ในขณะที่ทาครีมคุณสังเกตว่าต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้บวม ความคิดในแง่ลบก็คือ มะเร็ง อาจใช่หรือไม่ใช่ก็ได้สิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันตามปกติ ต่อมน้ำเหลืองโตเป็นสัญญาณว่ามันกำลังทำงาน นั่นคือ มันมีปฏิกิริยากับการติดเชื้อและกรองเชื้อโรค หากเป็นหวัดอย่างแรงก็เป็นเรื่องปกติที่ต่อมน้ำเหลืองที่คอจะบวม หากไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดหรือการบวมกินระยะเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์
           มือชาเท้าชา
          แม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปก่ออาชญากรรมที่ไหนมาแต่มือเท้าของคุณก็สั่น ความคิดในแง่ลบคือ โรค Multiple Sclerosis อาการเริ่มแรกของโรคคือ ความรู้สึกชาด้าน เหนื่อยเพลีย มีปัญหากับการมองเห็นและการเดิน สิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากเลือดไหลเวียนไม่ดีก็ได้ เพราะ 90% ของคนที่มีอาการที่ว่านี้เกิดจากการวางแขนและเท้าผิด ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนติดขัดขาชาก็อาจเกิดจากข้อต่อกระดูกสันหลังซึ่งส่งผลให้รู้สึกเจ็บปวดไปที่แขนหรือขา
           เสียงหวีดหวิวในหู
          หลังจากมีเรื่องให้ต้องโมโหในออฟฟิศตกตอนเย็นคุณก็รู้สึกมีเสียงหวีดหวิวในรูหู ความคิดในแง่ลบก็คือ หูดับในความเป็นจริงมันอาจเกิดจากความเครียดก็ได้ หากหูข้างหนึ่งไม่ได้ยินหรือไม่ได้ยินทั้งสองข้างล่ะก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาสิ่งที่เป็นไปได้ เสียงหวีดหวิวในหูที่เกิดจากความเครียดหรือจากเสียงดังของดนตรีเป็นเรื่องปกติ ไม่นานก็จะหายไปเอง หากเป็นโรคหูอื้อ (Tinnitus) จะได้ยินเสียงหวีดหวิวเป็นเวลานานและไม่เกี่ยวกับเสียงจากภายนอก
           เจ็บเข่า
          เมื่อวานนี้คุณไปจ็อกกิ้ง แล้วก็ปวดเข่าในวันนี้ คุณคิดในเชิงลบทันทีว่า ข้อเข่าเสื่อม ซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัย 35 ปี การป้องกันก็คือ ลดน้ำหนักส่วนเกินและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ กีฬาที่ดีที่สุดคือว่ายน้ำหรือขี่จักรยานสิ่งที่เป็นไปได้ อาจไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงก็ได้ ถ้าคุณสามารถขยับขาได้และอาการเจ็บบรรเทาลงก็ไม่น่าเป็นห่วงให้คุณใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบเข่าและหยุดพัก หากขยับข้อเข่าไม่ได้ก็ควรหาแถบผ้าพันไว้แล้วไปพบแพทย์
           หายใจไม่ออก
          เมื่อก่อนนี้คุณเคยขึ้นบันไดสามชั้นได้สบาย ๆ แต่ตอนนี้คุณต้องหยุดพักเพื่อหอบหายใจ ความคิดในแง่ลบคือโรคหอบหืดสิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากทางเดินหายใจตีบจึงทำให้ไอและหายใจไม่ออกหรือเกิดจากการเคี้ยวอาหารเร็ว บวกกับมีน้ำหนักเกินและสูบบุหรี่ก็อาจทำให้เกิดอาการที่ว่านี้ได้ หรืออาจเกิดจากโรคบางชนิด เช่น หัวใจอ่อนแอ หรือหายใจไม่ออก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาและไม่ต้องกลัวโรคปอดอักเสบ เพราะตามหลักแล้วอาการปอดอักเสบมักมีไข้ร่วมด้วย
           ไฝเปลี่ยนไป
          เมื่อสังเกตเห็นไฝใหญ่ขึ้น ความคิดในแง่ลบก็คือ มะเร็งไฝ แต่ลักษณะของโรคมะเร็งไฝก็คือ ขนาด สี และรูปร่างของไฝเปลี่ยนไป มีขอบไม่ชัดเจน หรืออาจคัน มีขุยหรือแข็ง คนที่เสียงกับมะเร็งไฝส่วนใหญ่จะมีผิวขาวและมีไฝมากกว่า 50 จุดสิ่งที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากวัยที่มากขึ้นจึงส่งผลให้ไฝเปลี่ยนไปตามวัย หากสงสัยไม่แน่ใจก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังซึ่งไฝมักเปลี่ยนไปเมื่อมีวัย 40+ เป็นส่วนใหญ่ หรือบางคนอาจมีไฝเปลี่ยนไปก่อนวัยนี้ก็ได้เช่นกัน


แหล่งที่มา :  health.kapook.com

อัพเดทล่าสุด