ยาฮอร์โมนเพศชาย เสริมฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศชายสูง


1,131 ผู้ชม


ยาฮอร์โมนเพศชาย เสริมฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศชายสูง

มหัศจรรย์แห่งฮอร์โมน
 
          ฮอร์โมนทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอยู่ในตัวเรานั้นมีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตของแต่ละคนเป็นอย่างยิ่งหลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลมาจากฮอร์โมนเพศในตัวเรานั่นเองลองมาทำความรู้จักฮอร์โมนเพศในตัวเรากันเถอะ
          หญิงและชายถูกกำหนดให้มีความแตกต่างกันทางสรีระ  ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของต่อมในสมองที่เรียกว่า  พิทูอิทารี  ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมนในการกำหนดความแตกต่างของกระบวนการทำงานในร่างกายของทั้งหญิงและชาย  นอกจากนี้ฮอร์โมนเพศยังมีผลต่อการกำหนดภาวะอารมณ์ของผู้หญิงและผู้ชายให้แตกต่างกันอีกด้วย

อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ

          โดยธรรมชาติแล้ว  ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็มีฮอร์โมนของทั้งสองเพศอยู่ในร่างกาย  ซึ่งบทบาทของฮอร์โมนเพศนี่เองที่จะทำหน้าที่ขับเน้นให้เกิดความแตกต่างของแต่ละเพศอย่างเด่นชัด  โดยฮอร์โมนเพศถูกสร้างขึ้นในต่อมไร้ท่อที่เรียกว่า  ต่อมโกแนด ซึ่งฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของเพศหญิงเรียกว่าเอสโตรเจน  และโปรเจสเตอโรน  มีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงพัฒนาจากเด็กไปสู่วัยสาว  ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้เต้านมขยาย  สะโพกผายขึ้น  น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล  มีลีลา  อ่อนไหวมากขึ้น  และที่สำคัญคือการมีประจำเดือน  ส่วนฮอร์โมนที่กำหนดความเป็นชายคือกลุ่มฮอร์โมนแอนโดรเจน  ซึ่งทำหน้าที่สร้างความเป็นชายนับตั้งแต่ปฏิสนธิ  ส่วนใหญ่ได้แก่ เทสโทสเตอโรน  ทำให้เด็กชายที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่มมีเสียงห้าวขึ้น  เริ่มมีหนวด  บางรายมีลักษณะทางพันธุกรรมเด่นชัด เช่น  ศีรษะล้าน  นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาวะอารมณ์ของทั้งสองเพศด้วย  ผู้ชายเริ่มมองสาวๆด้วยความรู้สึกแปลกๆ และผู้หญิงก็มองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกตื่นเต้น  แปลกใหม่เช่นเดียวกัน
          เรื่องน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศก็คือ  ในผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าปกติจะส่งผลให้มีนิสัยบางอย่างคล้ายไปทางผู้หญิงได้  เช่น เรียบร้อย  ไม่ชอบความรุนแรง  รวมทั้งมีรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกันบางคนก็เป็นผลมาจากความผิดปกติของระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์  จนกระทั่งเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์จึงจะเห็นเด่นชัด  ผู้ชายบางคนจึงมีผิวพรรณผุดผ่อง  นุ่มนวล  แต่ถึงแม้ว่าฮอร์โมนจะมีอิทธิพลต่อสรีระและพฤติกรรมแค่ไหนก็ตาม  สภาพความเป็นอยู่ในครอบครัว  การอบรมเลี้ยงดู  และสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน  สำหรับผู้หญิงที่มีปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากว่าปกติมาตั้งแต่เกิดจะส่งผลให้มีลักษณะท่าทางคล้ายผู้ชาย  เช่น  มีขนยาวและดก  เสียงแหบห้าว  และมีเรี่ยวแรงมากกว่าผู้หญิงทั่วไป  เป็นต้น

เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสำคัญอย่างไร
 
          เอสโตรเจนเป็นกลุ่มฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สร้างลักษณะทางเพศของผู้หญิง ช่วยเสริมสร้างเซลล์ให้เจริญเติบโต  ซ่อมแซมระบบสืบพันธุ์  รักษาสภาพผนังช่องคลอด  ควบคุมเมือกในช่องคลอด เพื่อป้องกันการอักเสบ  นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างหน้าอก  ทำให้เต้านมเต่งตึง  สะโพกผาย  ผิวพรรณเปล่งปลั่ง  รวมทั้งป้องกันไม่ให้กระดูกผุ  และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย  ส่วนปริมาณสารหล่อลื่นในผู้หญิงนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเอสโตนเจนด้วย  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พบว่าผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนมีการหล่อลื่นไม่ค่อยดี
          หน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่งของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงคือ ทำให้ไข่ในรังไข่เจริญเติบโต  พร้อมกับเสริมสร้างเยื่อบุมดลูกให้หนาขึ้นด้วย  ระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเดือนจะส่งผลให้อารมณ์ของผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไป  เช่น  ในช่วงตกไข่จะมีพละกำลังและอารมณ์เซ็กซี่มากขึ้น  เนื่องจากโปรเจสเตอโรนทำหน้าที่เตรียมมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัว  ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์โปรเจสเตอโรนก็จะค่อยๆลดปริมาณลง  นอกจากช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมในการตั้งครรภ์แล้ว  ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว  เพื่อป้องกันการตกไข่  ตลอดจนกระตุ้นการเจริญของเซลล์หลั่งน้ำนมในหน้าอกอีกด้วย
          เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเข้าสู่วัยทอง  อาการที่มักเกิดขึ้นคือรู้สึกร้อนวูบวาบ  เหงื่อออกตอนกลางคืน  หรือหนาวสั่น  ตื่นบ่อยๆความชื้นในช่องคลอดลดลงทำให้ติดเชื้อง่าย  หมดความสนใจเรื่องเพศสัมพันธ์  อารมณ์แปรปรวน  ปัสสาวะเล็ด  หน้าอกหย่อนยาน  ผิวหนังแห้ง  ภาวะความผิดปกติเหล่านี้จะเกิดแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน
บทบาทของเทสโทสเตอโรน
          ผู้ชายแต่ละวัยจะมีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่แตกต่างกันไป  วัยหนุ่มจะผลิตได้มากกว่า  ฮอร์โมนนี้จะส่งผลให้ผู้ชายมีนิสัยชอบเอาชนะและชอบการแข่งขัน  เว้นแม้แต่เรื่องความรักและความสัมพันธ์  นอกจากนี้ในบางช่วงฮอร์โมนชนิดนี้ยังส่งผลให้ผู้ชายรู้สึกเครียด  วิตกกังวล  จนรู้สึกหดหู่มากกว่าปกติและในชายหนุ่มบางรายที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ไม่เพียงพอ  จะมีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังตลอดจนส่งผลถึงความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์ลดลงได้
          เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นในตอนกลางคืน  ช่วงที่กำลังนอนหลับสนิท  นอกจากนี้แล้วการกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีในปริมาณที่เพียงพอ  คือวันละ 15-25 มิลลิกรัม  จะช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศชายได้อย่างดี  เมื่อมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายมากพอก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างอสุจิได้โดยอัตโนมัติ  โดยธาตุสังกะสีจะพบมากในอาหารทะเล เช่น กุ้ง  ปลา  และหอย  รวมทั้งตับ  เนื้อวัว  ผักสีเขียวเข้ม  และผลไม้  เช่น แตงโม  เมล็ดทานตะวัน  ยิ่งถ้าได้รับวิตามินจำพวกเบต้าแคโรทีน  ซึ่งพบมากในแครอท  แคนตาลูป  ส้ม  มะเขือเทศ  มะละกอสุก  มะม่วงสุก  และฟักทอง  จะช่วยเสริมสร้างกันได้ดียิ่งขึ้น  การออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะช่วยให้มีการผลิตฮอร์โมนในปริมาณที่เพียงพอได้เช่นกัน
การใช้ฮอร์โมนทดแทน

          วัตถุดิบหลักที่ร่างกายนำมาใช้ในการสร้างฮอร์โมนเพศทั้งฮอร์โมนเพศหญิง  และเพศชายก็คือ คอเลสเตอรอล  ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นของร่างกาย  ในผู้หญิงที่ผ่าตัดรังไข่  และย่างเข้าสู่วัยทอง  หรือวัยหลังหมดประจำเดือน  คอเลสเตอรอลจะไม่ถูกนำใช้ในการสร้างฮอร์โมรเอสโตรเจน  จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงกลุ่มนี้มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น  เฉลี่ยปีละ 10 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนนอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อสรีระทางการสืบพันธุ์ของผู้หญิงหลายอย่างแล้ว  ยังมีผลต่อการสะสมน้ำและเกลือแร่ในร่างกายด้วย  โดยเกลือแร่ที่มีแคลเซี่ยม  และฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกและน้ำจะถูกขับออกจากร่างกายได้มากกว่า  ดังนั้นการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นสาเหตุหลักของโรคกระดูกพรุน
          ปีค.ศ. 2002  มีการค้นพบฮอร์โมนที่สามารถใช้ทดแทนฮอร์โมนเอสโตนเจนได้อย่างปลอดภัยกว่าซึ่งเรียกกันว่าดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน ( Dehydroepiandrosterone )  หรือ DHEA ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ร่างกายจะผลิตขึ้นได้เองในต่อมหมวกไต
          ฮอร์โมน DHEA  เมื่ออยู่ในร่างกายจะสามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศชาย  และฮอร์โมนเพศหญิงได้  และจะเป็นฮอร์โมนเพศที่สร้างขึ้นทดแทนฮอร์โมนเพศในระบบหมุนเวียนเลือดที่ขาดหายไปทั้งในผู้หญิงและผู้ชายวัยทอง  หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการเสริมฮอร์โมน  ซึ่งจะสามารถช่วยให้ฟื้นคืนความตื่นตัวทางเพศได้อีกด้วย
          ส่วนการกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนชนิดที่แพร่หลายที่สุด  ซึ่งเป็นยาเม็ดรวมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในรูปสารสังเคราะห์โดยจะมีผลป้องกันการตกไข่  และโปรเจสเตอโรนยังเปลี่ยนเยื่อบุชั้นในของมดลูก  ทำให้มูกที่ปากมดลูกหนืดขึ้น  โอกาสที่อสุจิจะผ่านเข้าไปได้จึงยากขึ้น  ยาเม็ดรวมนี้ประกอบด้วยฮอร์โมนทั้งสองชนิดในระดับต่างๆกัน  ดังนั้นจึงควรกินยาตามลำดับวันที่มีระดับฮอร์โมนที่แตกต่างกันไป  ซึ่งมีทั้งกินชนิดในรอบ 21 วัน  และ 28 วัน  โดยชนิด 28 วัน จะมียาอยู่ 7 เม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน  แต่ใช้เพื่อให้กินยาทุกวัน  จะได้ไม่ลืมกินยานั่นเอง  ข้อดีของการกินยานี้คือใช้สะดวก  เชื่อถือได้  และให้ผลต่อเนื่อง  อาจทำให้มีรอบเดือนน้อยลงและช่วยลดอาการข้างเคียงที่เกิดในช่วงก่อนมีรอบเดือนได้  ส่วนข้อเสียคืออาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้  อารมณ์เปลี่ยนแปลง  และมีอาการปวดหัวข้างเดียวหรือคลื่นไส้อาเจียนได้  สำหรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว  จะช่วยป้องกันการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้วที่เยื่อบุมดลูก  แต่ไม่ได้ป้องกันการตกไข่  ข้อดีคือเหมาะกับผู้หญิงที่มีอาการข้างเคียงจากการใช้ยาเม็ดฮอร์โมนรวม  หรืออยู่ระหว่างให้นมลูก  แต่การกินยาชนิดนี้ต้องกินในเวลาเดียวกันและติดต่อกันทุกวันโดยไม่มีช่วงหยุดยา
          การกินฮอร์โมนเพศหญิงชนิดที่เรียกว่าโปรเจสเตอโรน หรือยาเลื่อนประจำเดือน ซึ่งชนิดที่นิยมคือ Primalut-N และ Provera  จะมีผลให้ประจำเดือนที่มาเมื่อถึงกำหนดเลื่อนออกไป  โดยเริ่มกินก่อนวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือน 3 วัน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง และสามารถกินต่อเนื่องได้นานถึง 10 วัน ระหว่างกินยาอยู่ประจำเดือนจะไม่มา  แต่เมื่อหยุดยาแล้วไม่นานประจำเดือนจะมาเอง  ระหว่างที่กินฮอร์โมนนี้  บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ้าง  แต่ก็ไม่จัดว่าผิดปกติ  ส่วนผู้ที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดหรือบำบัดด้วยการเสริมฮอร์โมน  ควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินบี 6 บี 12 กรดโฟลิก และสังกะสี  จะช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ดีขึ้น


แหล่งที่มา : neutron.rmutphysics.com

อัพเดทล่าสุด