ผลไม้เพื่อสุขภาพ น้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ สูตรน้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ วิธีทําน้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ


4,460 ผู้ชม


ผลไม้เพื่อสุขภาพ น้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ สูตรน้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ วิธีทําน้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ

กินกล้วยต้านโรค

กินกล้วยต้านโรค


กินกล้วยต้านโรค (Lisa)
           กล้วย มีกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงได้หลายพันปี หลายปีมาแล้ว เชื่อกันว่ากล้วยเป็นผลไม้ชนิดแรกที่คนปลูก เพื่อเป็นอาหาร ประเทศไทยเราชื่อแน่ว่าปลูกกล้วยกินมานานมากแล้ว จดหมายในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อ 300 กว่าปีมาแล้วก็กล่าวถึงเรื่องของกล้วย และยังมีผู้สำรวจและกล่าวว่ากล้วยหลาย 10 พันธุ์มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย แต่คนไทยกลับนิยมกินกล้วยกินน้อยมาก บางคนดูถูกด้วยซ้ำว่าเป็นผลไม้ของคนยาก เนื่องจากราคาถูก จึงถูกจัดให้เป็นผลไม้เกรดต่ำ นำมาขึ้นโต๊ะรับแขกไม่ได้ แขกจะถูกแย่ว่าเลี้ยงกล้วย ต้องไปหาผลไม้แพงๆ ซึ่งความจริงผลไม้ไทยๆ อย่างกล้วยนี้ สุดยอดวิตามินเชียวล่ะ
กินกล้วย-ต้านโรค
           ฟังดูชื่อเรื่อง บางคนอาจจะคิดว่า เกินเลยความจริงไปมั้ง
           จริง ๆ แล้ว ไม่เกินเลยความจริงเลย กล้วยผลไม้ไทย ๆ ของเรานี่แหละใช้เป็นยาป้องกันและรักษาโรคได้หลายโรค และยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารครบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ คือมีทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และน้ำ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังมีคุณสมบัติที่ย่อยง่าย ทางการแพทย์จึงได้เลือกให้กล้วยน้ำว้าสุกเป็นอาหารเสริมในวัยทารก
           น้ำตาลที่เกิดขึ้นจากขบวนการเปลี่ยนแปลงของแป้ง ขณะที่กล้วยสุกก็มีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อกล้วยตกไปถึงลำไส้จะทำให้ลำไส้มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้แคลเซียมถูกดูดซึมง่ายและสมบูรณ์ขึ้น จึงนับว่าน้ำตาลในกล้วยมีคุณค่ากว่าน้ำตาลที่ได้จากธัญพืชอื่น ๆ

           สารอาหารโปรตีนที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้า เป็นโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับเราอยู่หลายชนิด  โดยเฉพาะมีกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า อาร์จินิน และ ฮีสติดีน ซึ่งกรดอะมิโนทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก
           นอกจากโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแล้ว ในกล้วยแต่ละชนิดยังมีไขมันแม้จะอยู่ในปริมาณที่น้อยก็ตาม
           กล้วยแต่ละชนิดจะให้โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ในปริมาณที่แตกต่างกัน จะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนจากตาราง โดยเปรียบเทียบจากเนื้อกล้วยในปริมาณ 100 กรัม เท่าๆ กัน
           ส่วนวิตามินนั้น มองดูผิวเผิน กล้วยแต่ละชนิดสีขาวๆ ทั้งนั้นไม่น่าจะให้วิตามินเอเลย แต่ในกล้วยก็มีวิตามินเออยู่ด้วย แม้จะไม่มากเท่าวิตามินเอที่ได้จากมะละกอหรือมะม่วงสุก แต่ก็มีวิตามินเอมากกว่าผลไม้อีกหลาย ๆ ชนิด เช่น ชมพู่ ส้มโอ น้อยหน่า เป็นต้น ในบรรดากล้วยทุกชนิดนั้น กล้วยน้ำว้าจะมีวิตามินเอมากกว่าเพื่อน สำหรับวิตามินตัวอื่น กล้วยก็มีอยู่ครบทุกชนิดเช่นกัน ทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอะซิน
เกลือแร่สำคัญ ๆ ที่มีอยู่ในกล้วยก็คือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก
           เมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้อื่น ๆ แล้ว กล้วยนับเป็นผลไม้ที่มีเกลือแร่อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม ฟอสฟอรัส หรือเหล็กก็ตาม กล้วยทุกชนิดมีแร่ธาตุมากกว่าผลไม้ชนิดต่าง ๆ ดังนี้

          มีธาตุเหล็กมากกว่าแตงโม พุทรา ระกำ ลำไย ลิ้นจี่ แอปเปิ้ล แคนตาลูป ฯลฯ

          มีแคลเซียมมากกว่าชมพู่ มะเฟือง มะไฟ มะยม มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ

          มีฟอสฟอรัสมากกว่าลูกเงาะ ชมพู่ แตงไทย แตงโม มะเฟือง มะม่วง มังคุด ระกำ ละมุด แอปเปิ้ล แคนตาลูป ฯลฯ


กล้วย
ปริมาณสารอาหารที่ได้รับจากเนื้อกล้วย 100 กรัม


หมายเหตุ
จากตารางแสดงคุณค่าอาหารไทย ของกองโภชนาการ กรมอนามัย กรมอนามัย กรกฎาคม 2530


จากตารางแสดงคุณค่าอาหารไทยของกองโภชนาการ กรมอนามัย กรกฎาคม 2530

ปริมาณวิตามินในเนื้อกล้วย 100 กรัม


จากตารางแสดงคุณค่าอาหารไทย ของกองโภชนาการ กรมอนามัย กรกฎาคม 2530
(คัดลอกข้อมูลจาก กินต้านโรค โดย พรพรรณ รพี)


 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

             

เมนูผัดต่างๆ
เมนูไข่ต่างๆ
เมนูทอดต่างๆ
เมนูแกงต่างๆ
เมนูยำต่างๆ

เมนูปลาต่างๆ
เมนูอาหารเช้า
เมนูส้มตำ
เมนน้ำผลไม้
เมนูอาหารเป็นยา
เมนูแกงเขียวหวาน
เมนูแกงส้ม
พืชผักสวนครัว
ขนมหวานเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
บทความที่น่าสนใจ
เมนูอาหารเจต่างๆ
น้ำพริกต่างๆ
โรคต่างๆ
ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ

   

น้ำผลไม้ เมนูน้ำผลไม้

เมนูน้ำผลไม้ที่ 1
น้ำกล้วยหอม


ส่วนผสมน้ำผลไม้

กล้วยหอมหั่นท่อนสั้น 2 ถ้วย
นมสด 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อม 1 ถ้วย
เกลือป่นอนามัย 2/4 ช้อนชา
น้ำต้มสุก 2 ถ้วย
น้ำแข็งบด 2 ถ้วย

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 1 คลิก



เมนูน้ำผลไม้ที่ 2
น้ำแครอท


ส่วนผสมน้ำผลไม้

แครอท 2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง
เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 2 คลิก

เมนูน้ำผลไม้ที่ 3
น้ำใบบัวบก


ส่วนผสมน้ำผลไม้

บัวบกทั้งต้น 2 กำมือ
น้ำเชื่อม 8 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าต้มสุก 1/2 ถ้วย

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ี 3 คลิก



เมนูน้ำผลไม้ที่ 4
น้ำชะพลู


ส่วนผสมน้ำผลไม้

บัวบกทั้งต้น 2 กำมือ
น้ำเชื่อม 8 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าต้มสุก 1/2 ถ้วย
รากต้นชะพลูตากแห้ง 2 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 6 ถ้วยตวง

วิธีืทำน้ำผลไม้ที่ 4 คลิก


เมนูน้ำผลไม้ที่ 5
น้ำมะขาม


ส่วนผสมน้ำผลไม้
เนื้อมะขามสด หรือเปียก 2 ฝักใหญ่ 
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือเสริมไอโอดีน 2/5 ช้อนชา
น้ำเปล่า 16 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำผลไม้ที่่ 5 คลิก

เมนูน้ำผลไม้ที่ 6
น้ำเตยหอม


ส่วนผสมน้ำผลไม้

ใบเตยหอม 20 ใบ  
น้ำสะอาด 16 ถ้วย

น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 6 คลิก


เมนูน้ำผลไม้ที่ 7
น้ำตะไคร้


ส่วนผสมน้ำผลไม้

ตะไคร้ 5 ต้น
น้ำเชื่อม 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
วิธีทำน้ำผลไม้ึที่ 7 คลิก


เมนูน้ำผลไม้ที่ 8
น้ำตำลึง


ส่วนผสมน้ำผลไม้
ใบตำลึงประมาณ 60 ใบ
น้ำต้มสุก 4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 2 ถ้วย

น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 8 คลิก


เมนูน้ำผลไม
้ที่ 9
น้ำแตงโม


ส่วนผสมน้ำผลไม้

เนื้อแตงโม 2 ถ้วยตวง
น้ำตาล 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำต้มสุก 2 แก้ว
วิธีทำน้ำผลไม้้ที่ 9 คลิก


เมนูน้ำผลไม้ที่ 10
น้ำมะเขือเทศ


ส่วนผสมน้ำผลไม้
มะเขือเทศผลใหญ่ 4 ผล  
น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2/4 ช้อนชา
น้ำแข็งทุบละเอียด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 10 คลิก

เมนูน้ำผลไม้ที่ 11
น้ำทับทิม


ส่วนผสมน้ำผลไม้
เนื้อทับทิม 4 ถ้วย  
น้ำต้มสุก 4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 2 ถ้วย
น้ำต้มสุก 4 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 11 คลิก

เมนูน้ำผลไม้ที่ 12
น้ำกระเจี๊ยบ


ส่วนผสมน้ำผลไม้
กระเจี๊ยบแห้ง 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 4 ถ้วย
เกลือป่นอนามัย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด
10 ถ้วย

วิธีทำน้ำผลไม้ที่ 12คลิก

Hot menu >>เมนูน้ำผลไม้วันนี้็
เมนูน้ำผลไม้ที่ 13 น้ำเชอรี่

เมนูน้ำผลไม้ที่ 14 น้ำฝรั่ง
เมนูน้ำผลไม้ที่ 15 น้ำมะเฟือง
เมนูน้ำผลไม้ที่ 16 น้ำมะม่วง
เมนูน้ำผลไม้ที่ 17 น้ำสับปะรด
เมนูน้ำผลไม้ที่ 18 น้ำส้มคั้น

เมนูน้ำผลไม้ที่ 19น้ำขิง
เมนูน้ำผลไม้ที่ 20 น้ำมะตูม
เมนูน้ำผลไม้ที่ 21 น้ำเห็ดหลินจือ

เมนูน้ำผลไม้ที่ 22น้ำฟ้าทะลายโจร
เมนูน้ำผลไม้ที่ 23 น้ำดอกอัญชัญ
เมนูน้ำผลไม้ที่ 24 น้ำมะระปั่น
 

Link            https://www.mookfood.com

อัพเดทล่าสุด